เงินเฟ้อดิ่งต่อเดือนที่ 6 พาณิชย์ปรับเป้าทั้งปี เหลือ 0% ยันยังไม่เข้าเงินฝืด

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนก.ย.68 อยู่ที่ 100.11 หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป ลดลง -0.72% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6

โดยมีสาเหตุสำคัญจากราคาพลังงาน (ค่ากระแสไฟฟ้า และน้ำมันเชื้อเพลิง) ที่ปรับลดลงตามนโยบายของภาครัฐ รวมทั้งราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ สินค้าสำคัญในกลุ่มอาหารสด ยังคงปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะไข่ไก่ ผัก-ผลไม้สด

ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อช่วง 9 เดือนปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.68) ลดลง -0.01%

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือนก.ย.68 อยู่ที่ 101.46 หรืออัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ทำให้เฉลี่ย 9 เดือนปีนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 0.90%

สำหรับราคาสินค้าและบริการในเดือนก.ย.68 เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่ผ่านมา พบว่า สินค้าและบริการ ที่ราคาเพิ่มขึ้น 146 รายการ ได้แก่ ผักชี-ต้นหอม, มะนาว, ผักบุ้ง, ส้มเขียวหวาน, น้ำดื่มบริสุทธิ์ และน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ส่วนสินค้าและบริการ ที่ราคาลดลง 151 รายการ ได้แก่ ข้าวสารเจ้า, ข้าวสารเหนียว, เนื้อสุกร, พริกสด, กระดาษชำระ และ ค่ากระแสไฟฟ้า เป็นต้น ขณะที่สินค้าและบริการ ที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลง 167 รายการ

แม้เงินเฟ้อติดลบ 6 เดือน แต่ไม่ใช่สัญญาณเงินฝืด

นายนันทพงษ์ กล่าวว่า แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะติดลบต่อเนื่องกัน 6 เดือน แต่ไม่ใช่การเข้าสู่ภาวะเงินฝืดแต่อย่างใด เพราะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมสินค้ากลุ่มพลังงาน และอาหารสด) ยังคงขยายตัวเป็นบวก ประกอบกับอุปสงค์ในประเทศยังคงมีอยู่ และการจ้างแรงงานไม่ได้ลดลง และแม้ GDP ของประเทศจะขยายตัวได้ต่ำกว่าคาด แต่ก็ยังมีการเติบโตได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่สัญญาณของภาวะเงินฝืดแต่อย่างใด

“ดีมานด์ในประเทศยังมีอยู่ การจ้างงานคงที่ ไม่ได้ลดลง แม้ GDP จะต่ำกว่าคาด แต่ก็ยังโตได้ เพราะฉะนั้นยังไม่มีสัญญาณของเงินฝืด แต่ก็ต้องระวัง เรียกว่าเป็นภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว แต่เงินเฟ้อต่ำ”

 ผู้อำนวยการ สนค. กล่าว

อย่างไรก็ดี การที่อัตราเงินเฟ้อของไทยติดลบต่อเนื่องกันหลายเดือนนั้น ผู้อำนวยการ สนค. ยอมรับว่ามีความกังวลอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก เพราะ demand ในประเทศยังมีอยู่ และที่สำคัญ สัญญาณของการจ้างงานไม่ได้ลดลง

“ยอมรับว่าก็ต้องกังวล แต่ไม่ได้กังวลมาก เพราะเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ยังมีแรงดึงอยู่ ยังมีดีมานด์ในสินค้าบางตัว เช่น อาหารสำเร็จรูป นันทนาการ ดังนั้นดีมานด์ในประเทศยังมี สัญญาณจ้างงานไม่ได้ลด มาตรการภาครัฐ เช่น ธงฟ้า ที่ช่วยให้ค่าครองชีพลด ดังนั้นมาตรการคนละครึ่ง อาจดึงให้ขึ้นบ้าง ดังนั้นภาพรวมไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกังวลมาก”

 นายนันทพงษ์ กล่าว

แนวโน้มเงินเฟ้อ Q4/68 ใกล้เคียง 0%

ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 4/68 คาดว่ามีแนวโน้มใกล้เคียงกับ 0% โดยปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อไตรมาส 4 อยู่ใกล้เคียง 0% มาจาก

1. ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัส ปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง

2. ภาครัฐดำเนินมาตรการช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนก.ย.-ธ.ค.68 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้ค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาท/หน่วย

3. ราคาผัก-ผลไม้สด ต่ำกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก เนื่องจากปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก อีกทั้งฐานของราคาผักสดปีก่อนอยู่ในระดับสูง

4. การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่สูงขึ้น

ผู้อำนวยการ สนค. ระบุว่า แนวโน้มเงินเฟ้อไตรมาส 4/68 ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียง 0% นั้น ยังไม่รวมผลของมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” ที่คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือนต.ค.นี้ แต่ทั้งนี้ การมีมาตรการดังกล่าว ก็อาจช่วยหนุนให้เงินเฟ้อปรับขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากเป็นมาตรการในระยะสั้น แต่หากเป็นรูปแบบของการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐมากขึ้น จะมีผลช่วยกระตุ้นเงินเฟ้อได้มากกว่า

“มาตรการคนละครึ่ง เวลาออกมาใช้ จะทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อ CPI แต่ประเด็นคือ มันเป็น short run ไม่ใช่ long run เพราะฉะนั้น ถ้าเงินเฟ้อจะขึ้น ก็คงขึ้นไม่มาก เบื้องต้น เราจึงเชื่อว่าไตรมาส 4/68 เงินเฟ้อจะอยู่ที่ราว 0%…การใช้มาตรการภาครัฐมาช่วยกระตุ้นการบริโภค ซึ่งคนละครึ่ง ก็เป็นส่วนหนึ่ง รวมถึงการเร่งใช้จ่ายเงินงบประมาณ ซึ่ง 2 ตัวนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะบอกว่าช่วยการกระเตื้องขึ้นของ CPI ได้หรือไม่ แต่ยิ่งเร่งใช้เงินงบประมาณเยอะ CPI ก็จะยิ่งเร่งขึ้นตาม”

 นายนันทพงษ์ กล่าว

ปรับเป้าเงินเฟ้อปี 68 เหลือ 0%

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ของปี 68 ใหม่ มาอยู่ที่ 0.0% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในระดับต่ำ ราคาผักสดและผลไม้สดยังต่ำกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก รวมทั้งภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลง

ภายใต้สมมติฐานดังนี้ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) โต 1.8-2.3% น้ำมันดิบดูไบทั้งปี เฉลี่ย 63-73 ดอลลาร์/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนทั้งปี 32.50-33.50 บาท/ดอลลาร์

“ทั้งปี เราคาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0% เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกเข้ามา ทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลง และเงินบาทแข็งค่า ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยที่ทำให้ CPI อยู่ในระดับต่ำ เราคาดว่าทั้งปี จะอยู่ใกล้เคียง 0%”

  นายนันทพงษ์ ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ต.ค. 68)