กมธ.มั่นคงฯ ขวางตัวแทน “ผู้กองธรรมนัส” แจงปม “เบน สมิธ” ยันมีหลักฐานในมือเพียบ

ธรรมนัส พรหมเผ่า

ในการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นประธานฯ ได้เชิญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรมว.เกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงเรื่องนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ นายเบน สมิธ นักธุรกิจชาวต่างชาติ

แต่นางนฤมล แจ้งติดภารกิจตรวจโรงเรียนแห่งหนึ่ง ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ส่งตัวแทนมาชี้แจง ซึ่งในหนังสือที่ กมธ.ส่งเชิญ ร.อ.ธรรมนัส ระบุชัดเจนว่า ขอให้มาชี้แจงด้วยตนเอง ดังนั้นหากส่งเป็นทนายความหรือคณะทำงานมาจะขอปฏิเสธไม่รับผู้แทนคนอื่นนอกเหนือจากตัว ร.อ.ธรรมนัส เอง

ต่อมาเมื่อเวลา 11.10 น. นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้มาชี้แจงเนื่องจากติดภารกิจลงพื้นที่น้ำท่วมจังหวัดนครสวรรค์ จึงมอบหมายให้ตนมาเป็นตัวแทนในการชี้แจง ซึ่งตนทำตามกฎหมายใน 2 สถานะ คือ ได้รับมอบอำนาจจากนายเบน สมิธ ให้ดำเนินคดีกับนายรังสิมันต์ฐานหมิ่นประมาท และเป็นคณะที่ปรึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งตนมาในฐานะที่ 2 และรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนายเบน สมิธ และ ร.อ.ธรรมนัส เป็นอย่างดี แต่ได้รออยู่หน้าห้องประชุม กมธ.กว่า 1 ชั่วโมง แต่ไม่ได้เข้าไปชี้แจงในห้องประชุม

หากเชิญครั้งที่ 2 ร.อ.ธรรมนัสจะต้องมาเองหรือไม่ เพราะทางกรรมาธิการไม่รับฟังผู้ที่มาชี้แจงแทน นายธนดล ยืนยันว่า ทุกอย่างปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนการเรียกของกรรมาธิการก็เป็นอำนาจ เราจะมาหรือไม่มาก็ชี้แจงเป็นหนังสือหรือมอบหมายบุคคลก็ได้ จะรับหรือไม่รับก็เป็นเรื่องของกรรมาธิการ

สำหรับข้อมูลที่เตรียมมาชี้แจงวันนี้มีทุกอย่างครบทุกประเด็นว่า นายเบน สมิธ เป็นใครทำอะไรทำไมถึงมาอยู่ประเทศไทย ตนพร้อมตอบทุกคำถาม พร้อมยืนยันว่านายเบน สมิธ คนที่นายรังสิมันต์หมายถึง กับนายเบน สมิธ ที่รู้จักกับ ร.อ.ธรรมนัส เป็นคนละคนกัน ตนไปดูหลักฐานมาหมดแล้วยืนยันว่าเป็นคนละคนกันร้อยเปอร์เซ็นต์ และจาก ก.ล.ต.เมื่อปี 62 พบว่านายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ได้กระทำความผิดขายหุ้นบริษัทเทียนเทียน แล้วทำหนังสือไปถึงกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กอง 3 แล้วมาพบทีหลังว่าคนที่ขายหุ้นใช้ชื่อปลอมชื่อจริง มิสเตอร์นี้ ๆ ๆ แต่ยังไม่พูดเพราะจะไปสู้ที่ศาลเท่านั้นเอง คนละคนแน่นอน ยืนยัน เห็นกับตาด้วยตนเองแล้ว

นายธนดล กล่าวว่า เมื่อไปดูพยานหลักฐานแล้ว นายเบน สมิธ ไม่ได้โดนดำเนินคดี ไม่มีหมายแดง ไม่เคยถูกคำพิพากษาในประเทศไทย เป็นบุคคลที่เดินทางเข้าออกในประเทศไทยได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ส่วนสถานะการคบหากับ ร.อ.ธรรมนัส เป็นเหมือนคนรู้จักกันเป็นพี่เป็นน้อง ไม่มีกฎหมายไหนห้ามคบกัน เราปฏิบัติตามข้อกฎหมาย หากนายเบน สมิธ ทำผิดขอให้แจ้งความเลย

ส่วนการขอสัญชาติไทยของนายเบน สมิธ นั้นถูกตีกลับเนื่องจากบุตรชายของนายเบน สมิธ บอกว่าพ่อกับแม่เป็นคนสัญชาติอื่น เลยกลับไปแก้เอกสารเท่านั้นเอง ส่วนการจะขอใหม่ก็เป็นสิทธิของเขา

หลังการประชุมเสร็จสิ้น นายรังสิมันต์ได้เดินออกมาจากห้องประชุมเพื่อเตรียมจะแถลงข่าว นายธนดลที่รออยู่จึงเดินเข้าไปคุยกับนายรังสิมันต์ โดยบอกว่า วันนี้ ร.อ.ธรรมนัส ไปลงพื้นที่จ.นครสวรรค์ ในฐานะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และได้มอบหมายให้ตนมาชี้แจงแทน โดยใช้อำนาจกฎหมาย พ.ร.บ.อำนาจเรียกของกรรมาธิการ ที่สามารถให้ตัวแทนมาชี้แจงได้

นายรังสิมันต์ ตอบกลับว่า ตนไม่ได้ใช้อำนาจเรียก แต่ใช้หนังสือเชิญ ซึ่งเขียนชัดเจนว่าขอให้ ร.อ.ธรรมนัส มาด้วยตัวเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจงด้วยตัวเอง และในวันที่ 30 ต.ค.นี้ จะเชิญนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมว.คลัง เข้ามาให้ข้อมูลด้วย

นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่า ได้รับเอกสาร 48 หน้า เป็นข้อมูลที่เปิดโปงให้เห็นอาณาจักรการฟอกเงิน มีตัวละครต่าง ๆ หลักฐานบางอย่างเป็นระดับทางการ เป็นเรื่องการฟอกเงินที่ใหญ่มโหฬารในระดับที่อาจจะมีรัฐบางรัฐอยู่เบื้องหลัง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ต.ค. 68)