
รัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ชาติ (G7) ร่วมหารือประเด็นการควบคุมการส่งออกแร่หายากของจีน และแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพในการจำกัดการส่งออกน้ำมันและรายได้ของรัสเซีย เพื่อกดดันให้รัสเซียยุติสงครามกับยูเครน
คัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อมาตรการจำกัดการส่งออกของจีน และย้ำถึงความจำเป็นที่กลุ่ม G7 จะต้องร่วมมือกันตอบโต้ท่าทีล่าสุดของจีน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างการประชุมประจำฤดูใบไม้ร่วงของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก โดยมีประเทศสมาชิก G7 ซึ่งได้แก่ สหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น เข้าร่วม
ก่อนหน้านี้ ระหว่างการประชุมออนไลน์เมื่อต้นเดือนต.ค. บรรดารัฐมนตรีคลังกลุ่ม G7 ได้ออกแถลงการณ์ร่วมระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องเพิ่มแรงกดดันสูงสุดต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐบาล
ด้านสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แถลงต่อสื่อมวลชนก่อนการประชุม G7 ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมที่จะเก็บภาษีน้ำมันรัสเซีย (Russian oil tariff) หรือภาษีเพื่อชัยชนะของยูเครน (Ukrainian victory tariff) กับสินค้านำเข้าจากจีน และเรียกร้องให้พันธมิตรยุโรปดำเนินการในแนวทางเดียวกัน
เบสเซนต์ระบุว่า จีนเป็นผู้ซื้อน้ำมันและพลังงานจากรัสเซียมากถึง 60% พร้อมตั้งคำถามว่า “ใครกันแน่ที่กำลังเติมเชื้อเพลิงให้กับเครื่องจักรสงครามของรัสเซีย”
ทั้งนี้ เบสเซนต์ยังกล่าวต่อว่า สหรัฐฯ เตรียมเผยแพร่ภาพถ่ายที่รัฐบาลยูเครนจัดหาให้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ชิ้นส่วนจากจีนเป็นส่วนประกอบสำคัญในโดรนของรัสเซียที่ถูกนำมาใช้ในสมรภูมิยูเครน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ต.ค. 68)