
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ชี้แจงเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า การขอพระราชทานอภัยโทษเป็นสิทธิตามกฎหมายของผู้ต้องโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 259 ยื่นต่อ รมว.ยุติธรรม ได้ แต่จะถูกจำกัดในกรณีที่มีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษแล้วถูกยกหนหนึ่ง ซึ่ง มาตรา 264 ระบุว่า จะยื่นใหม่ไม่ได้ นอกจากจะผ่านไป 2 ปี นับจากวันที่ถูกยกหนแรก
แต่ของนายทักษิณ มีพระบรมราชโองการเมื่อวันที่ 31 ส.ค.66 พระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้เหลือจำคุก 1 ปี โดยศาลฎีกามีคำสั่งบังคับโทษนายทักษิณเข้าไปตามคำสั่ง ดังนั้นจึงไม่มีกรณียกฎีกามาก่อน เพราะปี 2566 ยังไม่ได้มีการยกฎีกา นั่นหมายความว่ายื่นได้เป็นสิทธิ โดย รมว.ยุติธรรม มีหน้าที่ถวายเรื่องราว โดยส่งมาให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อนำเรื่องนี้เสนอไปกรมราชเลขานุการในพระองค์ สำนักพระราชวัง ให้องคมนตรีถวายความเห็น
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า พระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษตามรัฐธรรมนูญ มี 2 แบบ คือ เฉพาะราย ที่ผ่านมาในปี 2566 มี 51 เรื่อง ปี 2567 มี 100 เรื่อง และ ปี 2568 มี 65 เรื่อง ซึ่งเป็นพระบรมราชวินิจฉัย ใครก้าวล่วงไม่ได้ ส่วนการพระราชทานอภัยโทษทั่วไป ในโอกาสสำคัญ หากคณะรัฐมนตรีเห็นสมควร
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า รมว.ยุติธรรมมีการยกฎีกาจริง แต่เป็นการถวายคำแนะนำ ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ รมว.ยุติธรรม และรัฐบาลจะถวายคำแนะนำ แต่ท้ายที่สุดจะต้องเป็นพระบรมราชวินิจฉัย ส่วนเหตุผลในการยกฎีกาเพราะเป็นธรรมเนียม และรัฐมนตรีเห็นควรว่าจะยก แต่ไม่ขอลงรายละเอียด เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการกราบบังคมทูล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ต.ค. 68)