“ไชยชนก” ยันรัฐบาลไม่นิ่งเฉยปราบสแกมเมอร์ เล็งเสนอเปิดช่องโจมตีกลับภัยไซเบอร์

นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลถูกวิจารณ์ว่านิ่งเฉยในการปราบปรามสแกมเมอร์ หลังมีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย เพราะเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่กระทรวงดีอีเดินหน้าไปมาก ส่วนการตั้งคณะกรรมการโดยนายกฯ เป็นสิ่งที่ดีที่ทุกองคาพยพทำงานร่วมกัน ทำให้การแก้ไขทรงพลัง ซึ่งหากดูจากรายชื่อของคณะกรรมการฯ จะพบว่ามีหลายหน่วยงาน รวมถึงหน่วยงานทหารด้วย

สำหรับเป้าหมายการปราบปรามนั้น นายไชยชนก กล่าวว่า การแก้ปัญหามีปัจจัยด้านการต่างประเทศมาเกี่ยวข้องในกัมพูชา ซึ่งมีข้อจำกัดระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพ หากเกิดในประเทศไทย ตำรวจมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเต็มที่ แต่หากข้ามแดนไป ตำรวจและทหารของไทยจะไม่สามารถทำอะไรได้

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ศึกษาแล้ว และเตรียมจะเสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณา คือ การศึกษากฎหมายใหม่ “Active Cyber Defence 2025” ที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่งออกมา โดยมีหลายประเทศดำเนินการในลักษณะคล้ายกัน เป็นกฎหมายให้สามารถตอบโต้ทางไซเบอร์ได้

“ยกตัวอย่าง มีการคุกคามเราทางไซเบอร์ เราสามารถมีทีมงานเฉพาะ หรือคณะกรรมการอนุมัติเรื่องต่อเรื่อง และแฮคกลับได้ ไม่ได้ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ เวียดนามก็ทำ ญี่ปุ่นก็ทำ โดยปลายเดือนนี้ ผมจะลงนามความร่วมมือที่สหประชาชาติด้วย” รมว.ดีอี กล่าว

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเปิดตัวละคร อย่าง “นายเบน สมิธ” ที่มีความสัมพันธ์กับคนในรัฐบาลนั้น นายไชยชนก กล่าวว่า ในเชิงลึกคงไม่สามารถตอบได้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สิ่งที่ทำได้คือต้องรับไปตรวจสอบ แต่เมื่อนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นแล้ว ทุกคนต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงไปดำเนินการ อาจจะไม่ใช่แค่กระทรวงดีอี แต่รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง จะทำให้การแก้ปัญหาสแกมเมอร์ล่าช้าสะดุดลงนั้น นายไชยชนก กล่าวเพียงว่า ที่ผ่านมา เดินเต็มที่มาโดยตลอด และจะเดินเต็มที่ต่อไป

“ถามว่ามีอุปสรรคไหม ตั้งแต่ผมประกาศตัวมา เจออุปสรรครุมเร้ามาก ผมก็สงสัยเหมือนกัน คนคิดดี ทำดี ทำงานเต็มที่ กลายเป็นว่าโดนหมดทุกทางมากกว่าเดิม เป็นเรื่องที่น่าคิด แต่ก็สรุปอะไรไม่ได้ เราไม่มีหลักฐาน แต่ถ้ามีหลักฐาน ยังไงก็ดำเนินการเต็มที่ และกลุ่มที่ตั้งข้อสังเกตและนำเสนอ หากมีหลักฐานก็ควรนำมาให้ชัดเจน ช่วยกันดำเนินการเร็วขึ้น” นายไชยชนก กล่าว

ส่วนความคืบหน้าตรวจสอบเงินสินบน 40 ล้านบาท แลกกับการไม่เดินหน้าปราบปรามสแกมเมอร์นั้น นายไชยชนก กล่าวว่า เพื่อความชัดเจน ตอนนี้สแกมเมอร์หรือไม่ ไม่แน่ใจ แต่เว็บที่ตรวจสอบพบ ถือว่าใช่ จะโยงสแกมเมอร์หรือไม่ ต้องแยกกันก่อน ขอให้รอชมความคืบหน้าในการตรวจสอบ

“รอชม ตอนแรกคิดว่า 30 วัน แต่ตอนนี้ทราบข้อมูลว่าเร็วกว่านั้น ขอให้รอชมเร็ว ๆ นี้” นายไชยชนก ตอบคำถามกรณีที่นายประเสิรฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทวงถามความคืบหน้าการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ต.ค. 68)