เงินบาทเปิด 32.33 แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค ตลาดจับตาสัญญาณดอกเบี้ยเฟด-ราคาทอง

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.33 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดวันก่อนที่ระดับ 32.44 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาท ทยอยแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการย่อตัวของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และการรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ ขณะเดียวกัน ความหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ก็หนุนให้เงินหยวนจีนทยอยแข็งค่าขึ้น และมีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของบรรดาสกุลเงินเอเชีย

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ผลการประชุม FOMC เดือนต.ค. ของเฟดที่จะรับรู้ในเช้าวันพฤหัสฯ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ และตลาดประเมินว่าเฟดอาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยลง 25bps เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมจับตาการส่งสัญญาณของเฟดต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต และการปรับลดงบดุล (QT) และการเมืองสหรัฐฯ หลังเข้าสู่ภาวะ Government Shutdown และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

ส่วนแนวโน้มของค่าเงินบาทนั้น การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงนี้ อาจชะลอลงบ้าง ตามแรงซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนจากบรรดาผู้เล่นในตลาด โดยเฉพาะฝั่งผู้นำเข้า

ทั้งนี้ เงินบาทก็อาจพอได้แรงหนุนบ้าง จากทั้งการทยอยแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินเอเชีย โดยเฉพาะเงินเนญี่ปุ่น และเงินหยวนจีน นอกจากนี้ การรีบาวด์สูงขึ้นของราคาทองคำ ก็มีส่วนช่วยหนุนเงินบาทได้เช่นกัน

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 32.20-32.55 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 32.3900 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 151.76 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1650 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.588 บาท/ดอลลาร์
  • นายกสมาคมค้าทองคำ ระบุว่า โดยส่วนตัวคาดการณ์ว่า ราคาทองคำระดับ 3,925 ดอลลาร์ต่อออนซ์น่าจะเป็นตัวรับได้ในระยะนี้ และภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ นักลงทุนยังต้องติดตามการประชุมเรื่องปรับลดดอกเบี้ยของเฟด และการเจรจาระหว่างสหรัฐกับจีนกันต่อไป โดยต้องติดตาม วันต่อวัน ซึ่งหากทองคำสามารถทำราคาอยู่ที่ระดับแนวรับ 3,925 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ คาดว่าในสิ้นปีนี้มีโอกาสที่ทองคำกลับขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่จากระดับสูงสุดปีนี้ทองคำแท่งขายออกราคาบาทละ 67,400 บาท หรือประมาณ 4,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีก
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) แนะจับตาความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นโยบายกีดกันทางการค้า การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง และการแข็งค่าของเงินบาท อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวทางด้านราคาของไทยในระยะข้างหน้า
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (28 ต.ค.) หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงอย่างมากในเดือนต.ค. นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังคงถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้
  • กระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลงว่า ประเทศไทยและมาเลเซีย ได้ตกลงที่จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแทรกแซงค่าเงินในตลาดปริวรรตเงินตรา ที่ดำเนินการโดยธนาคารกลาง ทั้งนี้ ไทยและมาเลเซีย ให้คำมั่นว่าจะรายงานข้อมูลการแทรกแซงตลาด อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง จากเดิมที่ไม่เคยมีการเปิดเผยต่อสาธารณะมาก่อน
  • ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 94.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 93.2 ความ
    เชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและตลาดแรงงานสหรัฐฯ
  • การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ ได้ย่างเข้าสู่วันที่ 28 เมื่อวานนี้ ท่ามกลางความหวังริบหรี่ที่จะเห็นวุฒิสภาสหรัฐฯ อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ลงนามในกรอบข้อตกลงเพื่อรับประกันความมั่นคงของอุปทานแร่หายาก ซึ่งมีการใช้ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นับตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงเครื่องบินรบ
  • นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด และการแถลงข่าวของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
  • นักลงทุนจับตาการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันพฤหัสบดีนี้ นอกรอบการประชุมเอเปคซึ่งจัดขึ้นที่เกาหลีใต้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ต.ค. 68)