FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนคงอยู่เกณฑ์ “ร้อนแรง” คาดหวังศก.ไทยฟื้นจากมาตรกระตุ้นภาครัฐ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนตุลาคม 2568 (สำรวจระหว่างวันที่ 20-31 ตุลาคม 2568) พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าคงอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ที่ระดับ 135.73

นักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)

ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์เศรษฐกิจยูโรโซน รองลงมาคือสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และความผันผวนของค่าเงินบาท

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจในเดือนตุลาคม 2568 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้

– ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (มกราคม 2569) อยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” (ช่วงค่าดัชนี 120-159) ที่ระดับ 135.73

– ความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนักลงทุนบุคคล กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ กลุ่มนักลงทุนสถาบันอยู่และนักลงทุนต่างประเทศ อยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง”

– หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดพาณิชย์ (COMM)

– หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดแฟชั่น (FASHION)

– ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

– ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์เศรษฐกิจยูโรโซน

ผลสำรวจ ณ เดือนตุลาคม 2568 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนบุคคล ปรับลด 4.9% อยู่ที่ระดับ 124.30 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลด 11.6% อยู่ที่ระดับ 137.50 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับลด 7.7% อยู่ที่ระดับ 153.85 และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศปรับลด 16.0% อยู่ที่ระดับ 140.00

ในเดือนตุลาคม 2568 ดัชนี SET ปรับตัวทะลุ 1,300 จุดโดยมีปัจจัยหนุนจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของของภาครัฐ อาทิ โครงการคนละครึ่งพลัส และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวซึ่งจะช่วยหนุนกระแสเงินสดในระบบเศรษฐกิจไทย แต่ยังคงมีความกังวลต่อการชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจกลุ่มยุโรปที่ซบเซายืดเยื้อ แรงกดดันด้านการค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ Government Shutdown ของสหรัฐอเมริกา โดย SET Index ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2568 ปิดที่ 1,309.50 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.77% จากเดือนก่อนหน้า ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนตุลาคม 2568 อยู่ที่ 39,473 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,496 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 2568 นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิรวม 100,739 ล้านบาท

ปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ผลการเจรจานโยบายการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และ จีน การแก้ปัญหา Government shutdown ของสหรัฐฯ แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน แนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลงในหลายประเทศซึ่งอาจทำให้มีการผ่อนคลายนโยบายดอกเบี้ยในประเทศพัฒนาแล้ว ส่งผลให้สภาพคล่องทั่วโลกมีโอกาสไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียโดยรวม

ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ แนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) การชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศทั้งภาคการส่งออก ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง ภาคการท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า และผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 68)