รายงานประชุมชี้ แบงก์ชาติออสซี่ดำเนินนโยบายการเงินระมัดระวัง-รอดูข้อมูลเพิ่มเติม

ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 3-4 พ.ย. โดยระบุว่า กรรมการ RBA ได้หารือกันเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ รวมทั้งหารือเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดแรงงาน และประเด็นที่ว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในลักษณะคุมเข้มหรือไม่

ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อวันที่ 4 พ.ย. คณะกรรมการ RBA มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3.6% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดย RBA เตือนว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจปรับตัวสูงขึ้น และย้ำว่าการดำเนินนโยบายการเงินในการประชุมครั้งต่อไปขึ้นอยู่กับข้อมูลที่จะได้รับ

การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันดังกล่าว มีขึ้นหลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 3.2% ในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบเป็นรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3% ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว

รายงานการประชุมซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ (18 พ.ย.) ระบุว่า กรรมการ RBA มีการหารือกันในประเด็นที่ว่า ภาวะทางการเงินยังคงตึงตัวอยู่หรือไม่ ซึ่งโดยสรุปแล้ว กรรมการ RBA ได้ตัดสินใจคงนโยบายการเงินในลักษณะ “คุมเข้มเล็กน้อย” แต่ก็ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะไม่ดำเนินนโยบายคุมเข้มในลักษณะดังกล่าว

RBA ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว 0.75% ในวงจรการผ่อนคลายนโยบายปัจจุบัน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2566 โดยขณะนี้ RBA กำลังพิจารณาถึงขอบเขตของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต เมื่อพิจารณาจากตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว และการเติบโตของผลิตภาพที่ยังคงซบเซา

นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังระบุว่า ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ เป็นเรื่องเหมาะสมที่คณะกรรมการ RBA จะต้องใช้ความระมัดระวังและต้องพึ่งพาข้อมูล และเสริมว่า กรรมการ RBA ยังคงจับตาพัฒนาการของเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิด ตลอดจนแนวโน้มในอุปสงค์ภายในประเทศ รวมทั้งแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน

สำหรับขัอมูลแรงงานล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 42,200 ตำแหน่ง ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 12,700 ตำแหน่ง และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 20,000 ตำแหน่ง เนื่องจากมีการจ้างงานพนักงานเต็มเวลาเพิ่มขึ้น

ส่วนอัตราว่างงานเดือนต.ค. ลดลงแตะระดับ 4.3% จากระดับ 4.5% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี นอกจากนี้ อัตราว่างงานเดือนต.ค.ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.4%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 68)