
ข้อมูลจากบริษัทวิจัยเคาน์เตอร์พอยต์ (Counterpoint) ระบุในวันนี้ (18 พ.ย.) ว่า ยอดขาย iPhone ในจีนเมื่อเดือนต.ค. คิดเป็นสัดส่วนถึง 25% หรือ 1 ใน 4 ของตลาดสมาร์ตโฟนทั้งหมด โดยยอดขายพุ่งสูงขึ้นถึง 37% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อันเป็นผลมาจากความต้องการอย่างมหาศาลต่อ iPhone 17 รุ่นใหม่ของบริษัทแอปเปิ้ล (Apple)
ถือเป็นครั้งแรกที่แอปเปิ้ลสามารถครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนจีนได้ถึงระดับนี้นับตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งในขณะนั้นการแข่งขันในตลาดสมาร์ตโฟนระดับบนยังไม่ดุเดือดเท่าปัจจุบัน
ข้อมูลชี้ว่า ภาพรวมตลาดสมาร์ตโฟนของจีนในเดือนต.ค.เติบโตขึ้น 8% จากปีก่อน โดยมีแอปเปิ้ลและผู้ผลิตสัญชาติจีนเป็นหัวจักรสำคัญ โดย iPhone 17 ทั้งสามรุ่นล้วนมียอดขายเติบโตในอัตราเลขสองหลัก ซึ่งรุ่นพื้นฐานเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด
อีวาน แลม นักวิเคราะห์อาวุโสของเคาน์เตอร์พอยต์ กล่าวว่า iPhone รุ่นใหม่เพียงอย่างเดียวคิดเป็นสัดส่วนยอดขายรายเครื่องของแอปเปิ้ลมากกว่า 80% “เราน่าจะได้เห็นการเติบโตที่สูงขึ้นไปอีก เพราะราคาขายเฉลี่ยต่อเครื่อง (ASP) ที่เพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว”
เคาน์เตอร์พอยต์ให้ความเห็นว่า แนวโน้มอันแข็งแกร่งนี้ชี้ให้เห็นว่า แอปเปิ้ลอาจทำยอดขายเป็นสถิติใหม่ในไตรมาสซึ่งสิ้นสุดในเดือนธ.ค.
ขณะเดียวกัน บรรดาแบรนด์สัญชาติจีนก็มีส่วนในการเติบโตของตลาดเช่นกัน โดยเสียวหมี่ (Xiaomi) สามารถไต่ขึ้นมาครองอันดับ 2 ได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ หลังจากชิงเปิดตัวสมาร์ตโฟนซีรีส์ 17 ของตนก่อนกำหนด
ส่วนยอดขายสมาร์ตโฟนของออปโป้ (Oppo) ในเดือนต.ค.ก็เพิ่มขึ้น 19% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากรุ่น Find X9 และ Reno 14
“อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะการมาถึงของ Huawei Mate 80 ที่หลายฝ่ายจับตามอง ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 25 พ.ย.นี้” แลมกล่าว “แต่ในขณะนี้ ต้องยอมรับว่ากระแสของแอปเปิ้ลนั้นแรงมาก และยังไม่ปรากฏสัญญาณใด ๆ ว่ายอดขายจะแผ่วลงอย่างฮวบฮาบในเร็ววันนี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 68)





