“เสี่ยหนู” ยอมรับฝันเลือกตั้งครั้งหน้าได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวภายหลังหารือหลายกลุ่มการเมืองที่เดินทางมาร่วมเปิดตัวในวันนี้ว่า วันนี้ ภท.มีการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง และเป็นไปตามที่คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า จึงต้องเตรียมการไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว วันนี้มีผู้แสดงเจตจำนงจะมาทำงานร่วมกันในทางการเมือง อย่างจังหวัดเพชรบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะช่วยดูแลคัดสรรที่จะมาร่วมงานกันได้พานายกฯ ปราย นายชัยยะ อังกินันทน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี และนางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี เขต 1 และนายฤกษ์ อยู่ดี สส.เพชรบุรี เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะมาร่วมงานในทางการเมือง และการเลือกตั้งครั้งหน้าจะส่งลงสมัคร ซึ่งเป็น สส.อยู่แล้ว 2 คน ซึ่งเพชรบุรีมี สส.ได้ทั้งหมด 3 คน หากได้มาทำงานร่วมกัน เชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ซึ่งตนจะลงไปแนะนำตนเองและขอโอกาสจากประชาชนในพื้นที่ในเร็ววันนี้

ส่วนพื้นที่จังหวัดชลบุรีที่มีหลายกลุ่มตอนนี้ถือว่าลงตัวแล้ว โดยนายสนธยาและนายวิทยา คุณปลื้มได้เดินทางมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนการแบ่งพื้นที่จังหวัดชลบุรีดูแลไม่มีปัญหาทับซ้อนกัน

นายอนุทิน กล่าวว่า รายละเอียดของพื้นที่เดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะมีคณะกรรมการสรรหาอยู่แล้ว แล้ววันนี้อะไรที่มีความชัดเจนก็ลงมาแจ้งให้กับประชาชนรับทราบ โดยไม่ต้องไปหลบ ๆ ซ่อน ๆ กั๊ก ๆ อะไรไม่เอา เพื่อจะได้ลงพื้นที่ทำงานได้เลย เพื่อจะได้แจ้งกับประชาชนว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำงานในนามพรรคภูมิใจไทย

ส่วนความชัดเจนของนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เดินทางมาพรรคภูมิใจไทยในวันนี้จะมาร่วมงานด้วยหรือไม่ก็เป็นอย่างที่บอก บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูดอะไร พูดมากคนอ่านไม่ชอบก็ได้ อัพว่ามาทำงานร่วมกันได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น โดยยึดประชาชนเป็นใหญ่และเป็นหลักอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยมีความเป็นเอกภาพ แต่ขณะนี้มีหลายกลุ่มการเมืองเข้ามาร่วมงานจะสามารถคุมพรรคให้เป็นเอกภาพได้ต่อไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มีกลุ่ม มีก๊วน มีก๊วนเดียว ก๊วนหนูนี่แหละครับ ทุกคนเรียกผมพี่หมดและนายสุชาติก็บ้านติดกัน คุยกันทุกคืน จะไปไหนผมก็ตามถึงบ้าน”

ส่วนสาเหตุที่นายวราวุธเลือกมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ใครก็รู้ว่าตนเองกับนายวราวุธเหมือนพี่น้องคลานตามกันมา สมัยที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ก็ดูแลตัวเหมือนลูกหลาน และยังเคยพูดกับตนว่าไปไหนก็ให้ดูแลน้องด้วย มีอะไรก็ดูแลกัน พูดตั้งแต่ตอนท่านยังไม่สิ้นไป แล้วตอนนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีเราก็ได้มาคุยกันว่าการทำการเมืองจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากที่สุด แยกกันทำก็อาจจะเกิดประโยชน์กับประชาชนไม่เต็มที่ ประสิทธิภาพและศักยภาพ ของแต่ละคนมีแต่การเมืองต้องประกอบด้วยหลายอย่าง ทำให้ตายหากไม่มีองค์ประกอบอื่น ๆ ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ วันนี้เราพยายามใช้ศักยภาพ ประสิทธิภาพประสบการณ์และความสามารถ ของแต่ละคนที่มีที่พร้อมจะรับใช้บ้านเมือง และประชาชนอย่างเต็มที่ เราเอาตรงนี้มาเปิดโอกาส ให้เขาใช้สิ่งที่มี พรรคภูมิใจไทยก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า เราให้โอกาสคนทำงาน ไม่มีการกั๊กหรือก้าวก่ายกัน

สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีการดึง สส.ที่มีชื่อเสียงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ก็เปิดตัวใกล้ ๆ กรุงเทพฯแล้ว นี่คือโอกาสในการสร้างให้กับคนทำงาน ให้ประชาชนเป็นปึกแผ่น ไม่มีเรื่องการด้อยค่า ปรามาสกันหรือพูดถึงคนอื่นในทางไม่ดี เราตั้งหน้าตั้งตาทำงาน และจังหวัดเพชรบุรีพลฝันมานานแล้วว่าอยากทำงานร่วมกับนายก อบจ. คนที่ทำให้ฝันเป็นจริงในวันนี้คือนายสุชาติ เราต้องใช้เครือข่ายและความสัมพันธ์ ที่มีอยู่แต่ต้องมาทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง ไม่ได้ใช้เครือข่าย ไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่ชอบ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่เคยคิดเช่นนั้น

ส่วนฝันต่อไปคือการได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ฝันต่อไปคือขอให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้มาก นั่นคือความฝันอันสูงสุด

ขณะที่กลยุทธ์ที่จะทำให้พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายอนุทิน กล่าวว่า เราร่วมกันทำงานและทำงานกันอย่างเต็มที่ นโยบายอะไรที่สัญญาไว้กับประชาชนก็ทำให้เต็มที่ ให้ประชาชนเห็น ไม่เห็นแล้วก็คงจะมั่นใจและได้รับความไว้วางใจ

สำหรับการประชุมใหญ่สามัญวันนี้มีการพูดถึงการวางตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน ต้องเป็นไปทีละขั้นตอน ยังไงก็มาแน่ ส่วนกรณีของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ก็เริ่มพูดคุยซึ่งวันนี้ก็มาร่วมประชุมที่พรรคภูมิใจไทย การจะเอาคนมาเป็นนายกฯเราก็ต้องคุยในรายละเอียด ทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้ได้มากที่สุดถ้าเข้ามาแล้วจะทำงานอย่างไร เพราะตามรัฐธรรมนูญสามารถเสนอชื่อนายกฯ ได้ 3 คน ซึ่งสมัยก่อนพรรคภูมิใจไทยเสนอชื่อตนคนเดียว แต่ช่วงหลังที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ทางการเมือง บางพรรคใช้ไป 3 คนหมดแล้วแต่บางพรรคมีแค่คนเดียว ดังนั้นเราต้องเติมเต็มและเตรียมความพร้อมไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไฟท์บังคับเพียงเป็นการเตรียมความพร้อมไว้ เพื่ออนาคตเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง จะได้มีความพร้อมในการสานต่องาน ให้เกิดความต่อเนื่อง

นายอนุทิน กล่าวว่า มองพวกที่เราต้องต่อสู้คือตัวเอง ต้องไม่ขี้เกียจ ไม่ประมาท ไม่คิดว่า ประชาชนให้ความไว้วางใจ แล้วเราจะอยู่เฉย ๆ ไม่สร้างความมั่นใจให้แข็งแกร่งขึ้น เราต้องเอาตัวเองวิ่งตามตัวเอง แล้ววิ่งนำตัวเอง ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ส่วนการดึงองคาพยพมาเสริมทัพในภูมิใจไทยทำให้มั่นใจมากขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทิศทางของพรรคแนวนโยบายของพรรคบุคลากรของพรรค ที่เข้ามาจะทำให้เป้าหมายของเราได้บรรลุ เพราะมีแต่คนมีประสบการณ์มีความรู้ความสามารถ และการที่ สส.พรรคเพื่อไทย บางคนมาปรากฏตัวในการประชุมใหญ่สามัญพรรคฯ ในวันนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า มาถึงวันนี้แล้วและการเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะเกิดขึ้นภายในเดือน 2 เดือนนี้ คงไม่มีอะไรต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ซึ่งไม่ดีหรอก จะเห็นได้ตั้งแต่จะเห็นได้ตั้งแต่ตั้งรัฐบาล ใครมาก็เปิดให้ประชาชนเห็นเลย ไม่ใช่แอบ ๆ มาแล้วโผล่ชื่อในภายหลัง คนไหนคุยเรียบร้อยหมดแล้วก็เอามาเปิดเผย เช่นเดียวกับจังหวัดเพชรบุรีที่มีผู้สมัครชัดเจนก็นำมาเปิดตัว หลังจากนี้ตนจะให้ผู้สมัครและนายสุชาติพาลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ก่อนหน้านี้ไปได้แค่อำเภอชะอำ ตอนนี้จะไปได้หลายที่ทั้งอำเภอเมือง อำเภอบ้านลาด และอีกหลายที่ซึ่งตอนนี้ชื่ออำเภอยังจำได้ไม่หมด

ส่วนหลังการเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสสูงหรือไม่ที่จะร่วมงานกับพรรคประชาชน นายอนุทินยกมือเลี่ยงตอบพร้อมระบุว่า ขอไปปิดประชุมใหญ่วิสามัญฯ ก่อน จากนั้นเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปหา น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งสวมเสื้อสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ น.ส.สรัสนนท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ซึ่งยืนรออยู่ที่หน้าประตูพรรค จากนั้นพาทั้งสองมาเปิดตัวกับสื่อมวลชน

โดยนายอนุทินไม่ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว บอกเพียงว่า “ให้ภาพเล่าเรื่อง” ก่อนจะกางแขนป้องและต้อน สส.ทั้ง 2 คนขึ้นชั้นบน และกล่าวว่า “เซฟลูกพรรคด้วย” พร้อมหัวเราะย่างอารมณ์ดี นักข่าวถามว่าเซฟลูกพรรคจากอะไร แต่นายอนุทินไม่ตอบแล้วต้อน สส.ทั้ง 2 คนขึ้นห้องประชุมทันที

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 68)