PMI ภาคการผลิตเกาหลีใต้หดตัว 2 เดือนติดในเดือนพ.ย. เซ่นพิษเศรษฐกิจ-ภาษีสหรัฐฯ

ภาคการผลิตของเกาหลีใต้ยังน่าห่วง หลังผลสำรวจที่เผยแพร่วันนี้ (1 ธ.ค.) ชี้ว่า กิจกรรมโรงงานเดือนพ.ย. หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สาเหตุหลักมาจากอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซาและผลกระทบจากกำแพงภาษี อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตเริ่มมีความหวังหลังรัฐบาลบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับสหรัฐฯ ได้สำเร็จ

S&P Global รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของเกาหลีใต้ประจำเดือนพ.ย. อยู่ที่ระดับ 49.4 ทรงตัวเท่ากับเดือนต.ค. ซึ่งการที่ตัวเลขต่ำกว่า 50 สะท้อนว่าภาคอุตสาหกรรมของประเทศเศรษฐกิจอันดับ 4 แห่งเอเชียยังคงอยู่ในภาวะหดตัว

อุซามะฮ์ ภัตติ นักเศรษฐศาสตร์จาก S&P Global Market Intelligence วิเคราะห์สถานการณ์ว่า ยอดการผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ต่างปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ปัจจัยลบสำคัญคือสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ฝืดเคือง ซ้ำเติมด้วยความผันผวนของราคาและกำแพงภาษี

ในฝั่งการส่งออก ยอดคำสั่งซื้อใหม่จากต่างประเทศลดลงเล็กน้อย โดยตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นชะลอตัว แต่ยังได้แรงซื้อจากอินเดีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย เข้ามาช่วยพยุงตัวเลขไว้

นอกจากยอดขายที่ตกต่ำ ผู้ผลิตยังต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเงินวอนที่อ่อนค่าส่งผลให้ราคาวัตถุดิบพุ่งสูงสุดในรอบ 9 เดือน แต่ด้วยกำลังซื้อที่หดหาย ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถผลักภาระให้ผู้บริโภคได้ ซ้ำยังต้องยอมลดราคาหน้าโรงงานลงเป็นครั้งแรกในรอบปีเพื่อระบายสินค้า

สถานการณ์ความไม่แน่นอนเริ่มคลี่คลายลงบ้าง หลังเกาหลีใต้สรุปข้อตกลงลดภาษีกับสหรัฐฯ ได้ในเดือนพ.ย. ซึ่งช่วยยุติความกังวลเรื่องการลงทุนที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่เดือนก.ค.

ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เพิ่งประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมส่งสัญญาณยุติวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อดูแลเสถียรภาพค่าเงินวอน

อย่างไรก็ดี ภาพรวมความเชื่อมั่นของผู้ผลิตในปีหน้ายังคงลดลง เนื่องจากความกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจน ปัญหาเงินเฟ้อ และการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 68)