
ชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนได้ออกมาเดินขบวนประท้วงขบวนตามท้องถนนในวันอาทิตย์ (30 พ.ย.) เพื่อเรียกร้องให้ผู้นำระดับสูงของฟิลิปปินส์ลาออก โดยการประท้วงรอบใหม่นี้เกิดขึ้นในเมืองสำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันที่ลุกลามเป็นวงกว้าง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งโบกธงและป้ายผ้าสีแดงได้เดินขบวนไปยังทำเนียบมาลากันยัง ซึ่งเป็นที่พักและสำนักงานอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี โดยพวกเขาเรียกประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ว่า “ราชาแห่งการทุจริต”
บรรดาผู้ประท้วงได้เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตั้งแนวกั้นไว้ อย่างไรก็ดี การเผชิญหน้ากันเกิดขึ้นเพียงไม่นาน ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะสลายตัวไปโดยไม่มีการปะทะกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อท้องถิ่นระบุว่า มีผู้เข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้อย่างน้อย 25,000 คน
ฟิลิปปินส์เผชิญกับการประท้วงหลายระลอก โดยการประท้วงรุนแรงที่เกิดขึ้นในเดือนก.ย.และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เกิดขึ้นหลังจากที่ปธน.มาร์กอสมีคำสั่งให้ตรวจสอบการทุจริตเงินในโครงการป้องกันน้ำท่วม ซึ่งสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 1 ล้านล้านเปโซ หรือประมาณ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักศึกษามหาวิทยาลัยรายหนึ่งที่เข้าร่วมการชุมนุมกล่าวว่า ทั้งปธน.มาร์กอสและรองปธน.ซารา ดูเตอร์เต ควรต้องรับผิดชอบ และเจ้าหน้าที่ทุจริตทั้งหมดต้องติดคุก
เมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานว่าโครงการป้องกันน้ำท่วมหลายโครงการมูลค่ารวมหลายพันล้านเปโซได้รับการอนุมัติแต่กลับไม่เกิดขึ้นจริงหรือมีคุณภาพต่ำ ซึ่งสร้างความเดือดดาลให้กับประชาชนชาวฟิลิปปินส์ที่ประสบภัยน้ำท่วมเป็นวงกว้างในช่วงฤดูพายุไต้ฝุ่น
ราล์ฟ เรคโต รัฐมนตรีคลังฟิลิปปินส์ได้แถลงต่อวุฒิสภาในช่วงต้นเดือนก.ย.ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์สูญเสียงบประมาณที่ใช้สำหรับโครงการป้องกันน้ำท่วมไปกับการทุจริตมากถึง 70% ส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา
รัฐมนตรีคลังฟิลิปปินส์ระบุว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยจากการทุจริตในโครงการป้องกันน้ำท่วมภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานโยธาธิการ อยู่ที่ประมาณ 42,300-118,500 ล้านเปโซ (ราว 700-2,000 ล้านดอลลาร์) ในช่วงปี 2566-2568 โดยตัวเลขประมาณการนี้อ้างอิงจากข้อมูลที่ระบุว่า 25%-70% ของงบประมาณโครงการป้องกันน้ำท่วมสูญเสียไปกับการทุจริต
ปธน.มาร์กอสเปิดเผยว่า รัฐบาลพบข้อบกพร่องมากมายในโครงการโยธาฯ ซึ่งรวมถึงโครงการป้องกันน้ำท่วมที่ล้มเหลวหรือแม้กระทั่งไม่มีอยู่จริง พร้อมระบุว่าหลายโครงการเป็นการฉ้อโกงและเป็นแหล่งรับสินบน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 68)





