
นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตนเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาอนุมัติเห็นชอบโครงการความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยา กับ Tomorrow.io ที่จะยกระดับการพยากรณ์อากาศและการแจ้งเตือนภัยพิบัติด้วยประสิทธิภาพสูงเทียบเท่าระบบมาตรฐานของต่างประเทศ
สำหรับความร่วมมือดังกล่าวเป็นการใช้งานระบบดาวเทียมตรวจสอบสภาพอากาศของ Tomorrow.io ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีภูมิอากาศที่ได้รับการยอมรับจาก NASA, U.S. Air Force, Bill & Melinda Gates Foundation และอีกหลายองกรชั้นนำในสหรัฐฯ โดยใช้การสังเกตการณ์จากดาวเทียมรุ่นใหม่จำนวน 9 ดวง ที่มีระบบ Microwave Sounder ซึ่งสามารถสแกนบรรยากาศโลกได้ถี่ในระดับต่ำกว่าชั่วโมงต่อรอบ และสามารถส่งรายงานการประมวลผลด้วย AI ได้ในทุก ๆ 15 นาที ทำให้สามารถทราบข้อมูลที่ชัดเจนและรวดเร็วเกี่ยวกับพายุ ปริมาณฝน น้ำท่วมฉับพลัน ฟ้าผ่า กระแสลม และสภาพอากาศทางทะเล พร้อมกับการสร้างแบบจำลองสภาพอากาศที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ และนำมาบูรณาการสู่โครงสร้างพื้นฐานด้านอุตุนิยมวิทยาของประเทศ

“กรมอุตุนิยมวิทยาจำเป็นต้องยกระดับความสามารถในด้านการพยากรณ์อากาศ โดยการวิเคราะห์สภาพอากาศที่แม่นยำ และสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า เพื่อการแจ้งเตือนประชาชนให้สามารถเตรียมตัวรับมือได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้แพลตฟอร์มของ Tomorrow.io ยังสามารถแปลงข้อมูลอุตุนิยมวิทยาที่ซับซ้อนให้เป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อให้หน่วยงานรัฐ ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนทั่วไป ใช้ในการตัดสินใจที่รวดเร็ว และเป็นระบบ ช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบจากสภาพอากาศรุนแรง โดยศักยภาพเหล่านี้จะยกระดับให้กรมอุตุนิยมวิทยา เป็นหน่วยงานศูนย์กลางของการเฝ้าระวังภัยพิบัติแห่งชาติ ช่วยสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับประชาชน ดังนั้นตนจึงเตรียมนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ ครม. เพื่อขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายกลางในการดำเนินการต่อไป” นายไชยชนก กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในด้านการเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติในอนาคตนั้น ตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเตรียมรับมือ และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของระบบสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการวางระบบสำรองฉุกเฉิน ไว้รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 68)





