เงินบาทเปิด 32.45 แข็งค่าเล็กน้อย ตลาดจับตาผลประชุม FED-BOJ-BoE สัปดาห์นี้

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.45 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปิดวันก่อนที่ระดับ 32.49 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยเงินบาทมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย. แย่กว่าที่ตลาดคาดไว้มาก

แนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา อาจชะลอลงบ้าง หลังสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลายลงได้ ซึ่งอาจกดดันให้บรรดาสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่ปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงก่อนหน้า ทั้งทองคำ และเงินเยนญี่ปุ่นอาจอ่อนค่าลงได้ไม่ยาก

แม้เงินบาทอาจชะลอการแข็งค่าขึ้นบ้าง แต่การเคลื่อนไหวระหว่างวัน อาจยังไร้ทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากตลาดรอลุ้นผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลักในสัปดาห์นี้ (BOJ, FED และ BoE) รวมถึงรอติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

คืนนี้ตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ เช่น ยอดค้าปลีก และยอดผลผลิตอุตสาหกรรม เดือนพ.ค. รวมถึงข้อมูลตลาดบ้าน

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 32.30-32.60 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.98 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 144.16 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1550 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1580 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 32.471 บาท/ดอลลาร์
  • รมว.พาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างประเทศระหว่างไทยและสหรัฐว่า ในสัปดาห์นี้จะเริ่มเปิดการเจรจาทางเทคนิคระหว่างไทยกับสหรัฐได้ โดยปลัดกระทรวงพาณิชย์นำทีมเจรจาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งยืนยันว่า กระทรวงพาณิชย์มีความพร้อมเต็มที่ และมั่นใจว่าการเจรจาจะประสบความสำเร็จได้ หากการเจรจาจบไม่ทันวันที่ 9 ก.ค. 68 ที่ครบกำหนด 90 วัน ในการชะลอการขึ้นภาษีตอบโต้นั้น ทางสหรัฐ เคยเปรยว่า หากประเทศใดมีความตั้งใจในการเจรจาก็อาจขยายเวลาออกไปได้
  • เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนไทยไตรมาส 2/2568 ว่า สถานการณ์การลงทุนในไตรมาส 2 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปี 2567 และไตรมาส 1 ปี 2568 โดย FDI จากผู้ลงทุนหลักยังเข้ามาตั้งฐานในไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยเฉพาะในกิจการ Data Center, Cloud Service, ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI, ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ, ซัพพลายเชนของกลุ่ม PCB, อุปกรณ์โทรคมนาคมและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของยานยนต์ รวมทั้งการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเติบโตตามแนวโน้มความต้องการที่สูงขึ้น
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (16 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน รวมทั้งผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (16 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน รวมทั้งผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 17-18 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังรอดูถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ
  • นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.5% ท่ามกลางสถานการณ์การค้าที่ไม่แน่นอน
  • นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ท่ามกลางความหวังที่ว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะไม่ลุกลาม หลังจากมีรายงานว่าอิหร่านส่งสัญญาณพร้อมที่จะเจรจาเพื่อยุติการสู้รบ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มิ.ย. 68)