CryptoShot: BTC ไต่ระดับ รับแรงหนุนจากกฎหมายใหม่ Trump!!

บิทคอยน์ สินทรัพย์ต้านเงินเฟ้อราคาพุ่งแตะ 109,000 ดอลลาร์เช้านี้ หลังจากร่างกฎหมายของ Trump ได้รับการอนุมัติ ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง นักลงทุนต่างเริ่มมองหาสินทรัพย์ที่จะไม่ถูกจำกัดด้วยเงินเฟ้อ ขณะที่สถาบันก็ทยอยซื้อบิทคอยน์เก็บเข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง!!

BTC ไต่ระดับรับแรงหนุนจากกฎหมายใหม่ Trump!!

เช้านี้ท้องฟ้าเขียวสดใส ราคาบิทคอยน์พุ่งแตะ 109,000 ดอลลาร์เข้าไปแล้ว ท่ามกลางเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดคริปโทฯอย่างต่อเนื่อง แถม 24 ชม.ล่าสุดพบว่ามูลค่าซื้อขายของบิทคอยน์พุ่งทะลุ 4,500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าตลาดโดยรวมของคริปโทฯ ยังคงอยู่ที่ราว ๆ 2 ล้านล้านดอลลาร์

หนึ่งในสาเหตุที่ดันราคามาจากการผ่านร่างกฎหมายของประธานาธิบดี Donald Trump ที่มีร่างกฎหมายชุดใหญ่ที่รวมหลายมาตรการเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งการลดภาษี, เพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมและความมั่นคงชายแดน, การตัดงบสวัสดิการสังคม และเพื่อชดเชยงบประมาณบางส่วน ก็ทำให้ต้องลดงบประมาณในโครงการสุขภาพและโภชนาการยอดนิยม ขณะเดียวกันก็ให้การลดภาษีรวมกว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

Matt Hougan, CIO ของ Bitwise Asset Management ให้ความเห็นว่า “การพิมพ์เงินอย่างไม่จำกัดของรัฐบาล คือเหตุผลที่นักลงทุนควรถือ Bitcoin” พร้อมเสริมว่าการถือสินทรัพย์ที่อยู่นอกระบบการเงินดั้งเดิม เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมการขาดดุลได้

และด้วยปัจจัยเชิงนโยบาย แนวโน้มทางเทคนิคของ Bitcoin ยังแสดงสัญญาณบวก โดยราคาบิทคอยน์กำลังทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 114,000 ดอลลาร์ หากสามารถทะลุระดับดังกล่าวไปได้ นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าราคาก็มีโอกาสพุ่งต่อไปแตะ 130,000-140,000 ดอลลาร์ ได้ในระยะกลาง

ทางฝั่งนักขุดและบริษัทคริปโทฯ ขนาดใหญ่ก็ยังไม่เร่งขาย Bitcoin ที่ถืออยู่ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในทิศทางตลาด สอดคล้องกับข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์ที่ระบุว่าปริมาณ Long Position ยังคงมีสัดส่วนสูงกว่าปกติ

อนาคตบิทคอยน์ สินทรัพย์ใหม่ที่จะมาแทนเงินเฟ้อ ดูทรงดีเลยทีเดียว!!

Bitwise ลั่น!! บิทคอยน์มีโอกาสแตะ 200,000 ดอลล์ ในปี 2025

เป็นอีกเจ้าที่ยังคงเชื่อมั่นในบิทคอยน์ และยังยืนยันการคาดการณ์เดิมว่าราคาบิทคอยน์จะแตะ 200,000 ดอลลาร์ในปีนี้!! ในขณะที่ Ethereum กับ Solana อาจไม่สามารถทำ ATH ได้อีกครั้ง

Matt Hougan ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน หรือ CIO ของ Bitwise และ Ryan Rasmussen หัวหน้าฝ่ายวิจัย ได้ออก memo ถึงลูกค้าว่า “บิทคอยน์ทำราคาสูงสุดใหม่ที่ 112,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากเงินที่ไหลเข้ากองทุน ETF อย่างต่อเนื่อง, ความต้องการจากบริษัทต่างๆ ที่นำบิทคอยน์เข้าไปเก็บในคลังสินทรัพย์, และการที่สหรัฐจัดตั้งทุนสำรองบิทคอยน์แห่งชาติ และถึงแม้ราคาจะยังมีความผันผวน แต่ทาง Bitwise ยังมั่นใจว่าราคาบิทคอยน์จะพุ่งขึ้นไปถึง 200,000 ดอลลาร์ เพราะความต้องการจากสถาบันยังมีมากเกินกว่าที่ราคาจะหยุดนิ่งได้นาน”

ขณะที่ ETH และ SOL แม้ความเชื่อมั่นจะน้อยกว่า แต่ก็ยังมีโอกาสเติบโตได้จากแรงหนุนของการยอมรับของ Stablecoin, การอนุมัติ ETF และจากการที่บริษัทถือครอง ETH และ SOL ในรูปแบบทุนสำรองสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ อย่างไรก็ตาม ราคา ETH และ SOL ยังติดลบเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี และความเสี่ยงจากภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค ก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดไม่ให้ตลาดกระทิงพุ่งทะยานได้อย่างเต็มที่

ด้าน Stablecoin และสินทรัพย์ในโลกจริงที่ถูกแปลงเป็นโทเคน (RWA) ก็กำลังเป็นดาวเด่นในตลาดคริปโทฯ โดยมูลค่ารวมของ Stablecoin พุ่งขึ้น 30% แตะ 2.6 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ RWA เติบโตเกือบเท่าตัวไปอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หากโมเมนตัมนี้ยังคงอยู่ ทั้งสองสินทรัพย์มีโอกาสสูงที่จะบรรลุเป้าหมายตามที่ Bitwise คาดการณ์ไว้ นั่นคือ มูลค่ารวมของ Stablecoin จะแตะ 4 แสนล้านดอลลาร์ และ RWA จะทะยานสู่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ได้ภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ Bitwise ได้กล่าวปิดท้ายไว้ว่า “ครึ่งปีหลังจะต้องน่าตื่นเต้นแน่นอน” พร้อมกับลุ้นว่าครึ่งปีหลังที่คาดการณ์ไว้ จะเข้าเป้ามากน้อยแค่ไหน ต้องรอติดตาม!!

SEC อนุมัติ!! Grayscale ETF ชู 5 เหรียญตำนาน!!

นับเป็นข่าวดีสำหรับ Grayscale เมื่อ SEC สหรัฐได้อนุมัติ Grayscale ETF ตัวใหม่ ที่ได้รวบรวม 5 เหรียญคริปโทฯ ในตำนานมาใส่ในพอร์ท เป็นทางเลือกของนักลงทุน ได้ฟีลแบบกองทุนรวม!!

ดูแล้วอาจจะเหมือนเรื่องเล็ก แต่ก็อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนยุทธศาสตร์ก็ได้ โดยกอง Grayscale ETF ใหม่นี้ ประกอบด้วย 5 เหรียญในตำนาน ในสัดส่วนที่ต่างกันไป ได้แก่ Bitcoin 80.2% , Ethereum 11.39% , XRP 4.82% , Solana 2.78% , Cardano 0.81%

หากย้อนดูประวัติ Grayscale เองก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ขับเคลื่อนวงการ ETF มาอย่างต่อเนื่อง เคยยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับ Altcoin ETF และ Staking ETF มาแล้วในอดีต ถึงแม้จะถูกปฏิเสธก็ตาม แต่การอนุมัติครั้งนี้ สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของ SEC ที่เริ่มเปิดกว้างมากขึ้นต่อคริปโทฯ นอกเหนือจากบิทคอยน์และ Ethereum และอาจกลายเป็นแรงกระเพื่อมที่ส่งผลให้บริษัทอื่น ๆ รีบยื่นขอ ETF แบบผสมเช่นเดียวกันในเร็ว ๆ นี้

เหตุการณ์นี้ก็เหมือน “การยอมรับเชิงนโยบาย” ที่อาจนำไปสู่การเติบโตของตลาดทุนคริปโทฯในสหรัฐฯ อย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่า Altcoin ที่ถูกรวมอยู่ใน ETF ล้วนเป็นเหรียญระดับ Layer 1 ที่มีระบบนิเวศแข็งแรงและมีผู้ใช้งานจริงจำนวนมาก หาก SEC ยังคงเดินหน้าในทิศทางนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ปี 2025 จะเป็นปีทองของ ETF ที่ไม่ได้มีแค่บิทคอยน์อีกต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 68)