
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (10 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงซื้อในตลาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 3,325.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สอง เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนยังคงเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร โดยล่าสุดปธน.ทรัมป์ยืนยันว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตรา 50% จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.
นอกจากนี้ เขายังประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากอีก 8 ประเทศ โดยเรียกเก็บภาษี 30% จากแอลจีเรีย อิรัก ลิเบีย และศรีลังกา, 25% จากบรูไนและมอลโดวา, 20% จากฟิลิปปินส์ และ 50% จากบราซิล โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.เช่นกัน
อย่างไรก็ดี สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ เนื่องจากแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ค. 68)