
ทำเนียบขาวส่งสัญญาณว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อาจใช้อำนาจปลดเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยอ้างเหตุการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ของเฟดที่ใช้งบประมาณบานปลายเกินควร
เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (13 ก.ค.) ว่า ปธน.ทรัมป์มีอำนาจในการปลดประธานเฟดหากมีมูลเหตุอันสมควร และระบุว่าเฟด “มีเรื่องที่ต้องชี้แจงอีกมาก” เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายดังกล่าว
แฮสเซตต์ให้สัมภาษณ์ในรายการ “This Week” ของสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า การตัดสินใจของปธน.ทรัมป์ขึ้นอยู่กับคำชี้แจงของเฟดต่อคำถามของรัสส์ โวท ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณของทำเนียบขาว โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โวทตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรับปรุงอาคารเฟดอย่างฟุ่มเฟือย พร้อมโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X เปรียบเทียบโครงการนี้กับพระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส โดยอ้างว่ามีการสร้างสวนบนระเบียง น้ำพุตกแต่ง และใช้ “หินอ่อนสุดหรู”
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ก.ค.) เฟดได้ออกเอกสารชี้แจงว่า นี่คือการปรับปรุงอาคารครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อสร้างในยุคทศวรรษ 2470 ซึ่งจำเป็นต้องมีการกำจัดสารตะกั่วและแร่ใยหินที่พบมากกว่าการคาดการณ์ในเบื้องต้น พร้อมเผยแพร่ภาพท่อและหลังคาที่รั่วซึมเพื่อยืนยันสภาพอาคารที่ทรุดโทรม
นอกจากนี้ เฟดปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการสร้างห้องอาหารหรือลิฟต์สำหรับบุคคลสำคัญ (VIP) และยืนยันว่าโครงการจะมีเพียง “หลังคาเขียว” (Green Roof) เพื่อประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ไม่มีพื้นที่ระเบียงให้ใช้งาน
ทั้งนี้ รายงานจากผู้ตรวจการภายในของเฟดเมื่อเดือนก.พ. ประเมินว่าค่าใช้จ่ายโครงการได้พุ่งขึ้นเป็น 2.4 พันล้านดอลลาร์ จากที่เคยประเมินไว้ที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์เมื่อสองปีก่อน
เมื่อถูกถามย้ำว่าทรัมป์มีอำนาจปลดพาวเวลหรือไม่ แฮสเซตต์ตอบว่า “เรื่องนั้นกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่แน่นอนว่าหากมีมูลเหตุอันสมควร เขาก็มีอำนาจนั้น”
อย่างไรก็ตาม เฟรนช์ ฮิลล์ สส. พรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการบริการการเงินของสภาผู้แทนฯ กล่าวว่า ทรัมป์ไม่มีอำนาจในการปลดพาวเวล แต่สภาคองเกรสจะยังคงตรวจสอบการทำงานของธนาคารกลางต่อไป
“ประธานาธิบดีทุกคนตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ล้วนเคยมีวาทะเผ็ดร้อนต่อประธานเฟด เมื่อนโยบายไม่ถูกใจ” ฮิลล์กล่าวในรายการ “Face the Nation” ของสถานีโทรทัศน์ CBS
ขณะเดียวกัน เควิน วอร์ช อดีตสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการของเฟด กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องมีการ “เปลี่ยนแปลงระบอบการบริหาร” ที่มากกว่าแค่การเปลี่ยนตัวประธาน
“เฟดได้หลงทิศหลงทางไปแล้ว ทั้งในด้านการกำกับดูแลและนโยบายการเงิน” วอร์ชให้สัมภาษณ์ในรายการ “Sunday Morning Futures” ของ Fox “เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระบอบการบริหารที่เฟด และนั่นไม่ได้หมายถึงแค่ตัวประธาน แต่หมายถึงบุคลากรในทุกระดับ หมายถึงการเปลี่ยนวิธีคิดและแบบจำลองที่พวกเขาใช้ และพูดกันตรง ๆ ก็คือ ต้องมีการจัดการขั้นเด็ดขาด เพราะแนวทางการทำงานที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันใช้ไม่ได้ผล”
ขณะเดียวกัน เจดี แวนซ์ รองปธน.สหรัฐฯ ก็ได้โพสต์ข้อความบน X โจมตีเฟดเช่นกันว่า “เฟดนั้นละเลยต่อหน้าที่โดยสิ้นเชิง ดังที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวไว้ พวกเขา ‘ช้าเกิน’ ทั้งในเรื่องการต่อสู้กับเงินเฟ้อในสมัยของไบเดน และในการลดอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน”
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้เรียกร้องให้พาวเวลลาออกจากตำแหน่งมาโดยตลอด นับตั้งแต่กลับเข้ารับตำแหน่งปธน.สมัยที่ 2 เมื่อเดือนม.ค. โดยโทษพาวเวลว่าล้มเหลวในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ค. 68)