ทองปิดบวก $22.40 รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (16 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และข้อพิพาทด้านการค้า นอกจากนี้ ราคาทองคำยังพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงแรก หลังจากสื่อรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะปลดเจอโรม พาวเวล ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก่อนที่ราคาจะลดช่วงบวกหลังจากปธน.ทรัมป์ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว

  • ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 22.40 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 3,359.10 ดอลลาร์/ออนซ์

อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงในกรุงดามัสกัสของซีเรีย ซึ่งสร้างความเสียหายต่อกระทรวงกลาโหมของซีเรีย นอกจากนี้ การโจมตียังเกิดขึ้นใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดีของซีเรียด้วย โดยการโจมตีในครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์ และทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

ข้อพิพาทด้านการค้ายังเป็นปัจจัยหนุนสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) ในอัตรา 30% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่ EU ระบุว่า เป็นระดับที่ยอมรับไม่ได้ ส่งผลให้คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เตรียมออกมาตรการตอบโต้ โดยเล็งเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 72,000 ล้านยูโร (84,100 ล้านดอลลาร์) หากการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า

นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการชะลอตัวของเงินเฟ้อ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% และต่ำกว่าในเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 2.7%

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.7% และต่ำกว่าในเดือนพ.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 3.2%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ค. 68)