
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.17 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.29 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก หลังดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงิน หลัง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังถูกประธานาธิบดีสหรัฐฯ กดดันให้ปรับลดอัตรา ดอกเบี้ย ขณะที่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการปิดดีลการค้ากับญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์
โดยวันนี้ตลาดจับตาดูความคืบหน้าการเจรจาต่อรองการค้ากับสหรัฐฯ และทิศทางของเงินทุนต่างประเทศหลังราคาทองใน ตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 37 ดอลลาร์
“บาทปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาค โดยตลาดรอดูความคืบหน้าการเจรจาภาษีทรัมป์ ซึ่งมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นหลังสหรัฐฯ ปิดดีลกับ ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ได้แล้ว” นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.10 – 32.30 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 146.43 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 147.55 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1741 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1690 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.2830 บาท/ดอลลาร์
- รมว.คลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาภาษีตอบโต้การนำเข้าจากสหรัฐฯ ว่า ขณะนี้สหรัฐฯ ได้พิจารณาข้อเสนอใหม่ ของประเทศไทยไปแล้ว 90% คาดว่าอีก 1-2 วันน่าจะพิจารณาครบ 100% และมีคำตอบที่ชัดเจนก่อนวันที่ 1 ส.ค.68 โดยเชื่อว่าสหรัฐฯ จะพิจารณาภาษีเป็นกลุ่มภูมิภาค
- โบรกส่งสัญญาณ “โฟลว์ต่างชาติ” ทยอยกลับเข้าซื้อ “หุ้นไทย” ช่วงก.ค. มูลค่าทะลุ 1.1 หมื่นล้าน มองเป็นเชิงบวกแม้มี ความไม่แน่นอนจากประเด็นเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐ “บล.กสิกรไทย” มองอานิสงส์ดอลลาร์อ่อนลง 12% ตั้งแต่ต้นปี ส่งผลเม็ด เงิน โยกเข้าหุ้น-พันธบัตร “บล.ฟินันเซีย ไซรัส” คาดมีความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับโอกาสบรรลุข้อตกลงการค้าไทย-สหรัฐ “บล.เอเซีย พลัส” ชี้หุ้นไทยราคาถูกต่างชาติ คาดจะทยอยเข้าช่วงครึ่งปีหลัง
- “ซีอีโอแบงก์” พาเหรดส่งสาร เตือน “เศรษฐกิจไทย” ครึ่งปีหลัง “น่าห่วง” เผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งส่งออกชะลอ ตัว ภาษีทรัมป์ และท่องเที่ยวหดตัว “กสิกรไทย” ชี้มีความเสี่ยงครึ่งหลังเศรษฐกิจจะไม่เติบโต “เอสซีบี เอกซ์” มองเศรษฐกิจยังคง ผันผวนสูง “กรุงไทย” เตือน รับมือภาษีสหรัฐ “ทีทีบี” ชี้ศก.เต็มไปด้วยความท้าทาย-ลูกหนี้น่าห่วงขึ้น “กรุงศรีอยุธยา” ชี้เศรษฐกิจ อ่อนแอกระทบลงทุนเอกชน
- ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นแล้ว โดยจะเรียก เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นในอัตรา 15% ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ขู่ว่าจะเรียกเก็บในอัตรา 25%
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความบน Truth Social ระบุว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับฟิลิปปินส์ แล้วสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากฟิลิปปินส์ในอัตรา 19% หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ขู่เรียกเก็บภาษีในอัตรา 20%
- รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาจะพบปะกับรัฐมนตรีคลังของจีนที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ในสัปดาห์หน้า เพื่อ หารือเกี่ยวกับการขยายกำหนดเส้นตายการเรียกเก็บภาษีสินค้าจีน จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 12 ส.ค. เพื่อเปิดทางให้สหรัฐฯ และจีนยัง คงทำการเจรจาข้อตกลงการค้าต่อไป
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงวิพากษ์วิจารณ์เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันอังคาร (22 ก.ค.) จากการที่เฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (22 ก.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังจากธนาคารชั้นนำอย่างโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาด การณ์เศรษฐกิจในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (22 ก.ค.) เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านการค้าเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อ ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผล ตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายใน วันที่ 1 ส.ค.
- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 29-30 ก.ค.นี้ โดยคาดว่าที่ประชุม จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)