
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ระบุว่า ตามที่ได้สอบสวนกรณีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป กระทำความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนเป็นคดีพิเศษ และได้ส่งสำนวนการสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวกรวม 19 ราย ไปยังพนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.67
คดีดังกล่าวยังมีผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดที่ลงทุนในต่างประเทศ 10 ประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 30 ราย และยังมีผู้เสียหายในประเทศที่ยังไม่ได้สอบสวนอีกกว่า 300 ราย ซึ่งพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อนุมัติให้แยกสำนวนการสอบสวนเป็นคดีพิเศษอีก 3 คดี ได้แก่ คดีพิเศษ ฐานความผิดฟอกเงิน, คดีพิเศษนอกราชอาณาจักรฯ และคดีพิเศษสำหรับผู้เสียหายในประเทศ โดยมี ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดี DSI เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน และอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งมอบหมายให้คณะพนักงานอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด รวม 6 ราย เข้าร่วมสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว
ร.ต.อ.วิษณุ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.) กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบในฐานะฝ่ายเลขานุการได้จัดประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการร่วมสอบสวน เพื่อวางแนวทางการสอบสวนผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดที่ลงทุนในต่างประเทศ 10 ประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 30 ราย ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการประสานให้มีการสอบสวนผู้เสียหายผ่านกฎหมาย พ.ร.บ.ความร่วมมือทางอาญาระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 ไปยังประเทศต่าง ๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น สวีเดน ออสเตรเลีย และประเทศอื่น ๆ ที่มีผู้เสียหายพำนักอยู่ รวมทั้งเร่งรัดวางแผนการสอบสวนพยานผู้เสียหายและตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก
พร้อมทั้งประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินที่มีการอายัดภายใต้คดีพิเศษ และส่งมอบให้สำนักงาน ปปง.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ก่อนหน้านี้ด้วย โดย นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ได้ขอให้คณะพนักงานสอบสวนเร่งรัดในการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว หากการสอบสวนปรากฏพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงแม่ทีมที่เข้าข่ายเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดก็จะได้ร่วมกันพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับความคืบหน้าคดีพิเศษสำหรับผู้เสียหายในประเทศ พ.ต.ท.อานนท์ อุนทริจันทร์ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กล่าวถึงกรณีมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ยังไม่เคยแจ้งความร้องทุกข์ หรือไม่เคยดำเนินคดี ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนได้ประกาศให้ผู้เสียหายร้องทุกข์และลงข้อมูลในระบบฐานข้อมูลคดีของ DSI นั้น ได้มอบหมายให้ น.ส.ปริมณ์ สาริยา ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 2 ส่งประเด็นการสอบสวนไปยังกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาคเพื่อดำเนินการสอบปากคำ ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายของผู้เสียหายในการเดินทางมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนที่ DSI ซึ่งในทางสืบสวนพบหลักฐานการชักชวนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่เข้าลักษณะเป็นแม่ทีมที่ชักชวนและได้รับผลประโยชน์เป็นจำนวนมาก หากปรากฏพยานหลักฐานที่ชัดเจนก็จะประชุมมีมติ เรียกบุคคลเหล่านั้นมาแจ้งข้อกล่าวหาโดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบจะแจ้งความคืบหน้าของการดำเนินการให้ประชาชนทราบเป็นระยะ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 68)