
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้สั่งปลด ลิซา คุก ออกจากตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยมีผลในทันที หลังมีข้อกล่าวหาว่าเธอกระทำการฉ้อโกงด้วยการให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
“ประชาชนชาวอเมริกันต้องสามารถเชื่อมั่นได้อย่างเต็มที่เกี่ยวกับความซื่อสัตย์ของสมาชิกที่ได้รับมอบหมายให้กำหนดนโยบายและกำกับดูแลธนาคารกลางสหรัฐฯ” ปธน.ทรัมป์ระบุในจดหมายที่เขาโพสต์ลงบนทรูธโซเชียล และเสริมว่า “เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมที่หลอกลวงและอาจเป็นอาชญากรรมของคุณในเรื่องการเงินแล้ว ชาวอเมริกันและตัวผมเองไม่สามารถเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์ของคุณได้”
คำสั่งปลดดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ระบุว่าจะดำเนินการสอบสวนลิซา คุก ภายหลังจากบิล พูลที ผู้อำนวยการสำนักงานการเงินเพื่อการเคหะของรัฐบาลสหรัฐ (FHFA) ได้โพสต์ข้อความบน X ระบุว่า คุกได้กู้เงินจาก FHFA เพื่อซื้อบ้านในรัฐมิชิแกน โดยระบุว่าเป็นที่อยู่อาศัยหลัก แต่ต่อมาเธอได้กู้เงินอีกครั้งหนึ่งเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมในแอตแลนตา และแจ้งว่าเป็นที่อยู่อาศัยหลักเช่นกัน
ทั้งนี้ พูลทีระบุว่า คุกให้ข้อมูลเท็จดังกล่าวเพื่อแสวงหาประโยชน์จากสิทธิพิเศษจากอัตราดอกเบี้ยที่ FHFA มอบให้สำหรับที่อยู่อาศัยหลักเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
การดำเนินการดังกล่าวนับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลทรัมป์ ในการเพิ่มการตรวจสอบทางกฎหมายต่อบุคคลสำคัญจากพรรคเดโมแครตและสร้างแรงกดดันต่อธนาคารกลาง
หลังจากที่ผู้อำนวยการ FHFA ได้เรียกร้องให้แพม บอนดี รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ดำเนินการสอบสวนในเบื้องต้น ต่อมาในวันที่ 20 ส.ค. คุกได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอจะไม่ยอมให้ตัวเองถูกรังแกให้ลาออกจากตำแหน่งเพราะคำถามบางอย่างที่เกิดขึ้นในทวีตเดียว และยังกล่าวด้วยว่า “ดิฉันตั้งใจที่จะนำคำถามต่าง ๆ มาพิจารณาเกี่ยวกับประวัติทางการเงินของดิฉันอย่างจริงจังในฐานะสมาชิกเฟด และดิฉันกำลังรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อตอบคำถามที่ชอบด้วยกฎหมายและให้ข้อเท็จจริง”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 68)