EU อนุมัติ “เยทูโอ” ยาต้าน HIV ตัวใหม่ ฉีดปีละ 2 เข็ม ประสิทธิภาพสูงเกือบ 100%

คณะกรรมาธิการยุโรปมีมติรับรองยาฉีดป้องกันเชื้อเอชไอวีชนิดใหม่ของบริษัทกิลเลียด ไซแอนซ์ (Gilead Sciences) แล้ว นับเป็นความหวังครั้งใหม่ในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลก โดยยาตัวนี้มีจุดเด่นคือฉีดเพียงปีละ 2 ครั้ง และมีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงเกือบ 100%

ยาดังกล่าวมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “เลนาคาพาวิเอร์” (lenacapavir) จะวางตลาดในยุโรปภายใต้ชื่อการค้า “เยทูโอ” (Yeytuo) หลังจากที่เพิ่งได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ไปเมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งใช้ชื่อการค้าว่า “เยซทูโก” (Yeztugo) โดยการอนุมัติของ EU ครั้งนี้จะครอบคลุม 27 ชาติสมาชิก รวมถึงนอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์

แม้จะได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ยาจะยังไม่สามารถเข้าถึงผู้ป่วยได้ในทันที โดยบริษัทกิลเลียดจะต้องเจรจาต่อรองเรื่องราคาและเงื่อนไขการเบิกจ่ายกับระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศเสียก่อน ซึ่งในสหรัฐฯ ยา “เยซทูโก” มีราคาจำหน่ายสูงถึงปีละกว่า 28,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 9 แสนบาท) ทำให้บริษัทประกันบางแห่งยังคงชะลอการอนุมัติเบิกจ่ายยาตัวใหม่นี้ โดยให้เหตุผลด้านราคาที่สูงกว่ายาเม็ดแบบดั้งเดิมอย่างมาก

นักวิเคราะห์จาก LSEG คาดการณ์ว่า ยาตัวนี้จะสร้างยอดขายทั่วโลกได้มากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2572

คณะกรรมาธิการยุโรปอนุมัติยาตัวนี้สำหรับใช้เป็นยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ (PrEP) เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อเอชไอวีจากการมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่มีความเสี่ยงสูง ผลการทดลองในกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่เมื่อปีที่แล้วยืนยันว่า เลนาคาพาวิเอร์มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อเอชไอวีได้เกือบ 100% ซึ่งจุดประกายความหวังในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกถึง 1.3 ล้านคนต่อปี

กิลเลียดเปิดเผยว่า การยื่นขออนุมัติใน EU ครั้งนี้ได้รับการพิจารณาในกระบวนการแบบเร่งด่วน ทำให้บริษัทยังได้รับสิทธิในการคุ้มครองตลาดยาวนานขึ้นอีกหนึ่งปี นอกจากนี้ บริษัทยังได้ยื่นเรื่องขอขึ้นทะเบียนตำรับยาในอีกหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา แอฟริกาใต้ และสวิตเซอร์แลนด์ และกำลังเตรียมเอกสารเพื่อยื่นในอาร์เจนตินา เม็กซิโก และเปรูต่อไป

บริษัทยังมีแผนที่จะร่วมมือกับกองทุนโลกเพื่อต่อสู้โรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย (The Global Fund to Fight AIDS, Tuberculosis and Malaria) เพื่อจัดหายาเลนาคาพาวิเอร์ให้กับประชากรราวสองล้านคนในกลุ่มประเทศรายได้น้อยเป็นเวลา 3 ปี ในระหว่างที่ผู้ผลิตยาสามัญกำลังเร่งเตรียมการผลิตภายใต้ข้อตกลงที่ได้รับการยกเว้นค่าลิขสิทธิ์

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ส.ค. 68)