ทรัมป์ขยายเส้นตายแบน TikTok ถึง 16 ธ.ค. ยันใกล้ปิดดีลโอนกิจการในสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันอังคาร (16 ก.ย.) ขยายเส้นตายการแยกกิจการติ๊กต๊อก (TikTok) ในสหรัฐฯ ออกจากไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่สัญชาติจีน จนถึงวันที่ 16 ธ.ค. โดยหากไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนด แอปยอดนิยมนี้จะถูกแบนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ

เส้นตายเดิม ซึ่งเป็นการขยายรอบที่ 3 มีกำหนดสิ้นสุดในวันพุธที่ 17 ก.ย. โดยเจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศเปิดเผยเมื่อวันจันทร์หลังการเจรจาเป็นระยะเวลา 2 วัน ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปนว่า ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุกรอบข้อตกลงเพื่อที่แพลตฟอร์มจะสามารถให้บริการผู้ใช้งานชาวอเมริกันราว 170 ล้านคนต่อไป

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์กล่าวเมื่อเช้าวันอังคารว่า “เราบรรลุข้อตกลงแล้ว” พร้อมยืนยันว่ามีกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งสนใจซื้อกิจการ ขณะที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ผู้นำทั้งสองประเทศจะเห็นชอบข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการสนทนาทางโทรศัพท์ที่จะมีขึ้นเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ ทรัมป์มีกำหนดหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในวันศุกร์ที่ 19 ก.ย. นี้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การขยายเวลาดังกล่าวสะท้อนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ และจีนใกล้บรรลุข้อตกลงถ่ายโอนกิจการติ๊กต๊อกในสหรัฐฯ ให้กับผู้ถือหุ้นสัญชาติอเมริกัน ขณะที่สื่อสหรัฐฯ หลายแห่งระบุว่า ติ๊กต๊อกมีแนวโน้มจะอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มนักลงทุนในประเทศ ซึ่งรวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างออราเคิล (Oracle)

สำหรับคำสั่งแบนติ๊กต๊อกซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน แรกเริ่มเดิมทีจะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีนี้ หลังจากอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อเดือนเม.ย. 2567 โดยรัฐบาลสหรัฐฯ และสภาคองเกรสอ้างว่า ติ๊กต๊อกเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงแห่งชาติ แม้ไบต์แดนซ์ปฏิเสธมาโดยตลอดว่าบริษัทไม่เคยอนุญาตให้ทางการจีนเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานก็ตาม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 68)