พรรคส้ม ขู่ใช้เสียงล้มรัฐบาล หาก “ภูมิใจไทย” ละเมิด MOA แปลงสภาพเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีกลุ่มการเมืองย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้จำนวน สส.ของพรรคภูมิใจไทยเพิ่มมากขึ้น และมีโอกาสที่จะขัดกับข้อตกลงในการทำ MOA รัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า หากมีการเบี้ยวสัญญา หรือพยายามเปลี่ยนสถานะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก พรรคประชาชนจะดำเนินการตามมาตรการที่ประกาศไว้ รวมถึงการใช้กลไกรัฐสภา เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ

“หากถึงจุดนั้น ก็จะดำเนินการตามมาตรการที่เรามี ในการควบคุมการรักษาสัญญา แต่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มันยิ่งตอกย้ำว่าทำไมถึงต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลายเป็นว่ามีรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องให้ สส. คนหนึ่ง วันนึงไปขอคะแนนเสียงประชาชนในนามพรรคหนึ่ง นโยบายของพรรคหนึ่ง แต่พอเข้ามาแล้ว อยู่ดี ๆ ก็เดินไปสมัครกับอีกพรรคนึงหรือไปสนับสนุนอีกพรรคหนึ่ง ทั้งที่ตัวเองยังคงเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ในประเด็นนี้ยิ่งตอกย้ำว่า ควรที่จะรวมเข้าไปด้วยตอนที่มีการพิจารณาจากทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” นายพริษฐ์กล่าว

หากพรรคภูมิใจไทย อ้างว่าไม่ได้ดึง สส.จากพรรคอื่นเข้ามา แต่เป็นการเข้ามาเอง จะเข้าข่ายผิดสัญญาหรือไม่นั้น นายพริษฐ์ ระบุว่าสัญญาเขียนชัดว่าถ้ามีความพยายามจะแปลงจากรัฐบาลเสียงข้างน้อย เป็นเสียงข้างมาก พรรคประชาชนจะดำเนินการใช้กลไกของรัฐสภา รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อล้มรัฐบาลเสียงข้างน้อย หากไม่รักษาสัญญา

“หากใครตามอย่างใกล้ชิดจะรู้ เพราะหากรอให้เกิดเหตุแล้วจะไม่ทันการณ์ ดังนั้นการควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยการใช้เสียงฝ่ายค้านที่เกินหนึ่งในขณะนี้ หากรอให้เขาดำเนินการเสร็จกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก การอภิปรายไม่ไว้วางใจไป ก็ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ตามหลักคณิตศาสตร์ จึงติดตามดูว่าความเสี่ยงจะนำไปสู่จุดนั้นหรือไม่” โฆษกพรรคประชาชน ระบุ

ส่วนที่มีรายงานว่า รมว.ยุติธรรม เตรียมเช็คบิลคดีที่ดินเขากระโดง กับคดีฮั้ว สว. นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่าเป็น 2 ประเด็นที่จะรวมอยู่ในการอภิปรายคำแถลงนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วนในเรื่อง รมว.ยุติธรรม ที่จะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งมา ทางพรรคประชาชนให้ความเห็นไปแล้วว่าสังคมจากตาดูว่าใครจะมาดำรงตำแหน่งนี้ และกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคดีฟอกเงินของผู้สมัคร สว.อยู่ จากเดิมที่จะปรากฏข่าวว่าเป็นตำรวจคนหนึ่งที่เคยอยู่ในทีมของ สว. ที่เป็นอดีตตำรวจ และเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดี ซึ่งพรรคประชาชนเคยทักท้วงไปแล้วว่าหากทำแบบนี้สังคมจะมีการตั้งคำถามว่ามีการแต่งตั้งบุคคลดังกล่าวเพื่อไปแทรกแซงคดีหรือไม่ จึงต้องการให้มีการทบทวน

ส่วนที่มีรายงานข่าวว่ามีการข่มขู่ไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และอธิบดีกรมที่ดิน และคดีฮั้ว สว.นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) มีผู้มายื่นข้อมูลให้กับนายวิโรจร์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชนไปแล้ว และหากประชาชนมีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่งมาให้พรรคประชาชนได้ โดยยืนยันว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา หากมีหลักฐานเรื่องการใช้อำนาจโดยไม่ชอบก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 68)