
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา (ก.ค.-ก.ย.) ดีดปรับตัวขึ้นไปแล้ว 19% เป็นอันดับ 5 ของโลก และในเดือน ก.ย.เพียยงเดือนเดียว หลังจากภาพรัฐบาลใหม่ชัดเจนหุ้นไทย ปรับขึ้นมา 5% เป็นอันดับ 8 ของโลก ซึ่งในเชิงเทคนิคถือว่าเข้าเขต OVERBOUGHT หรือขึ้นมาแรงมากเกินไป อาจมีย่อตัวลงบ้างจาก 3 ปัจจัยดังนี้
1. ในเชิงเทคนิค SET มีจำนวนหุ้นที่ขึ้นมาเร็วเกินไป โดยมีหุ้นอยู่ในตลาดประมาณ 600 กว่าบริษัท มี RSI > 70 หรือเข้าเขต OVERBOUGHT แล้วประมาณ 17% ของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดทั้งหมด ดังนั้นอาจจะมีการพักฐานได้บ้าง หากเป็นไปตามสถิติย้อนหลัง ถ้า SET INDEX ขยับขึ้นจนมีหุ้นที่มี RSI เข้าเขต OVERBOUGHT เกิน 15% จะย่อตัวลงในช่วงสั้นๆ
2. FUND FLOW เริ่มเห็นการชะลอลง ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยทุกวัน 6.6 พันล้านบาท
3. ในมุม UPSIDE ตลาดเริ่มแคบ โดย BLOOMBERG CONSENSUS คาดการณ์เป้าหมายดัชนีหุ้นไทยที่ระดับ 1,380 จุด ใน 12 เดือนข้างหน้า เหลืออัพไซด์เพียง 6% ซึ่งปกติถ้าอัพไซด์ต่ำกว่า 10% หุ้นไทยมีโอกาสย่อพักฐานก่อนช่วงสั้น หลังจากที่ตลาดตอบรับข่าวที่เกิดขึ้นในเชิงบวกระดับหนึ่ง
กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
- หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว รับกระแสใกล้เข้าสู่วันหยุดยาวแห่งชาติของจีน GOLDEN WEEK อย่าง ERW CENTEL AAV
- หุ้น DEFENSIVE ราคา Laggard เลือก BDMS, BCH
- หุ้น HIGH DIVIDEND YIELD เลือก SCB ปันผล 8% ต่อปี, PTT ปันผล 6.4%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 68)