
นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์อัพ โดยติดตามครม.เศรษฐกิจเข้าหารือ FETCO หนุนต่อความคาดหวังในการกระตุ้นตลาดทุนไทย และหนุนต่อตลาดหุ้น รวมทั้งแรงหนุนหุ้นพลังงานจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น พร้อมให้แนวต้าน 1,290 จุด แนวรับ 1,265 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์อัพได้ โดยที่ติดตามคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจะเข้าหารือกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ซึ่งคาดว่าจะเป็น
ปัจจัยที่เข้ามาช่วยหนุนต่อความคาดหวังในการกระตุ้นตลาดทุนของไทยได้ และเป็นแรงหนุนต่อตลาดหุ้นได้เช่นกัน
ขณะที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมา ทำให้จะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ด้วยเช่นกัน และส่งผลหนุนต่อดัชนี ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
โดยให้แนวต้าน 1,290 จุด แนวรับ 1,265 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (24 ก.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,121.28 จุด ลดลง 171.50 จุด หรือ -0.37%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,637.97 จุด ลดลง 18.95 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,497.86 จุด ลดลง 75.62 จุด หรือ -0.33%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 45,600.07 จุด ลดลง 30.24 จุด หรือ -0.07%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,852.43 จุด ลดลง 1.21 จุด หรือ -0.03% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 26,536.13 จุด เพิ่มขึ้น 17.48 จุด หรือ +0.06%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ก.ย.) 1,278.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด (+0.41%) มูลค่าซื้อขาย 38,563.93 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (24 ก.ย.) 1,339.76 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. (24 ก.ย.) เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.49% ปิดที่ 64.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ก.ย.) อยู่ที่ 4.30 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.12 อ่อนค่ารับดอลลาร์แข็งหลังตัวเลขศก.สหรัฐดีกว่าคาด-“ฟิทช์” ปรับลด Outlook ไทย
- “อนุทิน” นายกรัฐมนตรี เยือนตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ มาพร้อมทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ “ดร.เอกนิติ” รองนายกฯ และ รมว.คลัง, “ศุภจี” รมว.พาณิชย์, “อรรถพล” รมว.พลังงาน และ “วรภัค” รมช.คลัง เพื่อรับฟัง “ข้อเสนอ” จากสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และการ “เสริมพลังจากภาครัฐ” ลุ้นเว้นภาษีเงินปันผลในหุ้นไทย, วงเงินลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับนักลงทุน เพิ่มการสนับสนุนลงทุนใน Thai ESG ด้านนักวิเคราะห์มองเป็น “จิตวิทยาเชิงบวก” กับตลาดหุ้นไทย ด้าน “ศุภวุฒิ สายเชื้อ” เผยวิธีดูแลค่าเงินบาทของ ธปท.ถูกบรรดานักเก็งกำไรจับแนวทางได้
- “ฟิทช์ เรทติ้งส์” หั่นแนวโน้ม อันดับเครดิตไทยจากมีเสถียรภาพ ลงสู่ “เชิงลบ” ชี้แนวโน้มการคลังเสี่ยงมากขึ้นจากปัญหาการเมืองยืดเยื้อ ซ้ำด้วยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ยังคงอันดับเครดิตของไทยเอาไว้ ที่ BBB+ สนค.เผยส่งออก ส.ค.ขยายตัว 5.8% โตต่อเนื่องเดือนที่ 14 แต่เริ่มชะลอตัวลง จากผลภาษีทรัมป์ ตลาดสหรัฐ ส.ค.ลดฮวบ เหลือ 12.8% “หอการค้า” ลุ้นระทึก 4 เดือนที่เหลือปีนี้
- “ททท.” คาดการณ์ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เข้าไทยปีนี้ 33.4 ล้านคน ลดลง 6% หลังตลาดเอเชียตะวันออกหดตัวแรง เฉพาะ “จีน” ติดลบกว่า 35% อาเซียนหายไป 8% เผยได้ตลาดระยะไกล-อินเดียประคองสถานการณ์ จี้เร่งปรับภาพลักษณ์ให้สดใหม่ รับแข่งขันเพื่อนบ้าน ลุยอัดบิ๊กอีเวนต์ไฮซีซัน ปลุกมู้ด ด้าน ส.อ.ท.ชี้ส่งออกและท่องเที่ยวไทยเสียเปรียบ คู่แข่งเรื่อง “ค่าเงิน” ฝันระยะยาวอยากเห็นทัวริสต์ 70 ล้านคน ปั๊มรายได้ 20-25% ของจีดีพี
- ทส.เปิด 3 สาเหตุ ถนนทรุดบริเวณก่อสร้างสถานีวชิรพยาบาล รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ชี้งานก่อสร้าง รถไฟฟ้าใต้ดินอาจกระทบเสถียรภาพชั้นดิน วิศวกรรมสถานฯ ชี้ เกิดรอยรั่วรอยต่อ อุโมงค์ใต้ดิน ทำดินไหลเข้าอุโมงค์จนทรุดตัว รฟม.สั่งหยุดก่อสร้างทันที ตรวจสอบ ทุกอุโมงค์ พร้อมรับผิดชอบความ เสียหาย “ซิโน-ไทย” ยืนยันงานอุโมงค์เสร็จแล้ว
- “วรภัค” กางโจทย์ใหญ่รัฐบาลใหม่ หลัง “ภาคการคลังไทย” กำลังเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างหนัก ชู 3 แนวทางปรับสมดุลครบวงจร แนะปฏิรูปโครงสร้างภาษี ชงขึ้น VAT อย่างเหมาะสม
- ส่งออกไทยเดือน ส.ค. 68 เริ่มแผ่ว โตแค่ 5.8% หลังภาษีสหรัฐเริ่มบังคับ คาด 4 เดือนที่เหลือเจอของจริง ส่อขยายตัวติดลบ เหตุมีการเร่งนำเข้าเต็มสต๊อก ชายแดนมีปัญหา สินค้าเกษตรราคาตก บาทแข็ง ฐานปีก่อนสูง แต่ยังมั่นใจทั้งปีโตตามเป้า 2-3% ด้านบริษัทตั้งใหม่ยังโต
หุ้นเด่นวันนี้
- PR9 (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30 บาท แนวโน้มการเติบโตของคนไข้ต่างชาติยังแข็งแกร่ง คาดคนไข้ต่างชาติโตสูง +73% y-y ในปี 2025 และต่อเนื่องในปี 2026 +17% จากกลุ่มคนไข้ตะวันออกกลาง รวมถึงโอกาสในตลาดใหม่ๆ เช่น คูเวต ขณะที่คนไข้ไทยตั้งเป้ารักษาสัดส่วนไว้ที่ 70-75% ระยะสั้นคาดกำไรปกติไตรมาส 3/68 ทำ New High ที่ 230 ลบ. +26% q-q, +11% y-y ส่วนกำไรปีปกติปี 2568 คาดที่ 826 ลบ. +16% y-y และโตต่อเนื่องเป็น 924 ลบ. +11% y-y ในปี 2569
- CPALL (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 65 บาท คาดแนวโน้ม SSSG ในช่วงไตรมาส 3/68 จะทรงตัวถึงดีขึ้นเล็กน้อย สอดคล้องกับตัวเลขเดือน ก.ค. และ ส.ค. จากช่วง 2Q25 ที่มี SSSG -0.8%y-y การควบคุมต้นค่าใช้จ่ายยังคงทำได้ดี และรักษาระดับของ GPM ได้ดี ขณะที่ Valuation ยังเทรดเพียง PE 15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PE ในอดีตที่ราว 20 เท่า ยังมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสม
- ERW (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 3.11 บาท จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาลใหม่ อีกทั้งผู้ว่าการ ททท. ได้เสนอไอเดียผ่าน social media ให้มีโครงการ ทัวร์ไทยคนละครึ่ง เพื่อดึงดูดคนไทยออกมาเที่ยวภายในประเทศ ประกอบกับเราคาดหวังการฟื้นตัวใน 2H25 ที่เป็น high season เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก อีกทั้ง ททท. เปิดตัวโครงการ “Nihao Month” ช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติจีน (Golden Week) ระหว่าง 1-8 ต.ค. 2025 เพื่อรับมือการชะลอตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีน ที่อาจหนุนให้รายได้มีแนวโน้มที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 4/68
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ย. 68)