เงินบาทเปิด 32.77 อ่อนค่าต่อเนื่อง ลุ้นแตะ 33.00 จับตาทิศทาง Flow-ราคาทอง

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.77 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.58 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก หลังดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ทางการเมืองจากนอกประเทศ ทั้งญี่ปุ่นและฝรั่งเศส ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังไม่ได้รับการเปิดเผยเพราะอยู่ในภาวะชัตดาวน์

“บาทปรับตัวอ่อนค่าขึ้นมามากจากเย็นวานนี้ โดยบาทแตะระดับนิวไฮในรอบ 10 สัปดาห์นับตั้งแต่สิงหาคม” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.70-33.00 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้ตลาดติดตามดูทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างประเทศของนักลงทุน และการค้าทองคำหลังราคาในตลาดโลกเมื่อคืนปรับตัวลดลงแรงเกือบ 100 ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 153.08 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 152.60 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1560 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1620 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.597 บาท/ดอลลาร์
  • กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาทบทวนการลดหย่อนภาษีและมาตรการยกเว้นภาษีบางตัวของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อเป็นการปฏิรูปภาษี สร้างรายได้ทางการคลังอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขความกังวลในปัญหาหนี้สาธารณะของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
  • รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังหารือร่วมกับคณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือในการรับมือกับมาตรการภาษีของสหรัฐ อเมริกา ว่า กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายให้การเจรจารายละเอียดมีข้อยุติภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศได้รับความชัดเจนและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเน้นให้ทุกภาคส่วนทำการบ้านล่วงหน้า รวมทั้งเตรียมตลาดทดแทน และวางกลยุทธ์สินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก
  • ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ประเมินเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปีนี้จะเติบโต 2% หลังครึ่งปีแรกโตแล้ว 3% คาดว่าครึ่งปีหลังจะโตเฉลี่ยเพียง 1% จึงไม่น่าแปลกใจที่รองนายกรัฐมนตรีได้เตือนไว้ล่วงหน้าว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4 จะออกมาไม่ดี คาดว่าจีดีพีไตรมาส 3-4 ปีนี้จะโตระดับ 1.7% และ 0.3% ตามลำดับ
  • “3 ซีอีโอแบงก์” ชี้ เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับดัก “เอสซีบี เอกซ์” มองแม้ไม่ใช่ภาวะวิกฤติเฉียบพลัน วิกฤติเชิงโครงสร้างซึมลึก ซ้ำเติมจากโควิด-19 ส่งผลเติบโตต่ำมากเพียง 2% “ทีทีบี” ชี้ คนไทยชน “3 กำแพงใหญ่” ถือเป็นจุดเริ่มต้น ดึง “เอเอ็มซี” แก้หนี้ ด้าน “กสิกรไทย” ชี้ไทยติดกับดักหนี้นานกว่า 40 ปี “PWC” ชี้ 5 เมกะเทรนด์ “พลิกโฉม” ธุรกิจไทย
  • ผอ.ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อจากความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ เนื่องจากการจ้างงานสหรัฐฯ ยังซบเซา โดยเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% สิ้นปีนี้ พร้อมส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 0.25% 1 ครั้ง ปี 69 และลดดอกเบี้ยอีก 0.25% 1 ครั้ง ปี 70
  • การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ ได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 9 และแทบไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าพรรครีพับลิกันและเดโมแครตจะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณชั่วคราว ส่งผลให้นักลงทุนขาดแคลนข้อมูลเศรษฐกิจที่จำเป็น
  • การขาดแคลนข้อมูลจากภาครัฐได้ทำให้นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยล่าสุดประธานเฟดสาขานิวยอร์ก สนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับความอ่อนแอ
  • ประธานเฟด ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ในระหว่างการกล่าวเปิดการประชุมว่าด้วยธนาคารชุมชนเมื่อวานนี้ โดยเขากล่าวเพียงว่า ธนาคารชุมชนมีความสำคัญต่อระบบการเงินของสหรัฐฯ และย้ำว่าเฟดจะรับฟังความคิดเห็นของผู้บริหารธนาคารชุมชน และพร้อมที่จะปรับการกำกับดูแลให้เหมาะสม เพื่อรักษาเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารสหรัฐฯ
  • ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศส ส่วนเงินเยนยังคงอ่อนค่าลงเนื่องจากนักลงทุนได้ลดคาดการณ์แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หลังจากซานาเอะ ทาคาอิจิ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และเตรียมก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี (9 ต.ค.) หลุดจากระดับ 4,000 ดอลลาร์ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลและกลุ่มฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

สำนักข่าวอินโฟเควสท์