
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันอังคาร (14 ต.ค.) จากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และการร่วงลงอย่างหนักของหุ้น Michelin ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในฝรั่งเศส หลังนายกรัฐมนตรีประกาศเตรียมชะลอการปฏิรูประบบบำนาญ
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 564.54 จุด ลดลง 2.09 จุด หรือ -0.37%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,919.62 จุด ลดลง 14.64 จุด หรือ -0.18%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,236.94 จุด ลดลง 150.99 จุด หรือ -0.62% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,452.77 จุด เพิ่มขึ้น 9.90 จุด หรือ +0.10%
เซบาสเตียน เลอกอร์นู นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสเสนอให้เลื่อนการปฏิรูประบบบำนาญออกไปจนกว่าจะพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2570 หลังเผชิญแรงกดดันจากสมาชิกสภาฝ่ายซ้าย โดยมีเป้าหมายเพื่อประคองเสถียรภาพทางการเมืองที่เปราะบางของตน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลฝรั่งเศสอายุ 10 ปีปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ฝรั่งเศสกำลังเผชิญวิกฤตทางการเมืองรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดยรัฐบาลเสียงข้างน้อยต่อเนื่องหลายชุดพยายามผลักดันงบประมาณลดการขาดดุลผ่านรัฐสภาที่แตกออกเป็นสามขั้วทางอุดมการณ์ที่ขัดแย้งกัน
นักวิเคราะห์รายหนึ่งให้ความเห็นว่า นักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น สงครามการค้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลกำไรของบริษัทในทันทีมากกว่า
ยอดขายไตรมาส 3 ของ LVMH กลุ่มสินค้าหรูรายใหญ่ที่สุดของโลก ออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่จะเก็บภาษีนำเข้า 100% กับสินค้าจีน เพื่อตอบโต้การที่จีนจำกัดการส่งออกแร่หายาก แม้ทรัมป์จะลดโทนคำพูดลงในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ความตึงเครียดยังคงอยู่ เนื่องจากทั้งสองประเทศเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือใหม่กับผู้ขนส่งทางทะเล ซึ่งอาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วห่วงโซ่อุปทาน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจลดลง 1.6%
ดัชนีกลุ่มยานยนต์โดยรวมร่วงลง 2.5% โดยหุ้น Michelin ร่วงหนักถึง 8.9% หลังปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี ขณะที่หุ้น Continental ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เยอรมนีร่วงลง 4.3% และหุ้น Pirelli ผู้ผลิตยางรถยนต์อิตาลีร่วง 1.2%
ในทางกลับกัน หุ้น Ericsson ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมสวีเดน พุ่งขึ้น 18% หลังรายงานผลกำไรไตรมาสล่าสุดสูงกว่าคาด และระบุว่าผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ เป็นไปอย่างจำกัด
โดยรวมแล้ว ผลกำไรไตรมาส 3 ของบริษัทในดัชนี STOXX 600 คาดว่าจะลดลงเฉลี่ย 0.2% ตามข้อมูลจาก LSEG IBES ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งต่างจากการคาดการณ์เดิมในเดือนก.พ. ที่ประเมินว่าจะเติบโต 12.5% ก่อนที่ทรัมป์จะประกาศเก็บภาษีรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ยังถือว่าดีกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดไว้เมื่อเดือนก่อนซึ่งประเมินว่าจะลดลง 0.6%
ในบรรดาหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Siemens ร่วงลง 3.1% หลัง Morgan Stanley ปรับลดคำแนะนำลงทุนจากระดับ “น้ำหนักมากกว่าตลาด” เหลือ “เท่ากับตลาด” ซึ่งกดดันต่อดัชนีโดยรวม
ด้านหุ้นสายการบินต้นทุนต่ำ easyJet ที่จดทะเบียนในอังกฤษพุ่งขึ้น 8% หลังสื่ออิตาลีรายงานว่าบริษัท Mediterranean Shipping Company อาจมีความสนใจเข้าซื้อกิจการ แต่ทางบริษัทเดินเรือได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ต.ค. 68)