ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก หลังคลายกังวลภาคธนาคารสหรัฐฯ–คำพูดทรัมป์ลดความตึงเครียดการค้า

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (20 ต.ค.) หลังจากความกังวลเบื้องต้นเกี่ยวกับเสถียรภาพของภาคธนาคารสหรัฐฯ คลี่คลายลง ขณะเดียวกันคำกล่าวล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ช่วยลดความตึงเครียดทางการค้า กระตุ้นให้นักลงทุนหันกลับมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น

  • ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 572.10 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด หรือ +1.03%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,206.07 จุด เพิ่มขึ้น 31.87 จุด หรือ +0.39%,
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,258.80 จุด เพิ่มขึ้น 427.81 จุด หรือ +1.80% และ
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,403.57 จุด เพิ่มขึ้น 49.00 จุด หรือ +0.52%

ดัชนี STOXX 600 ดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงเกือบ 1% เมื่อวันศุกร์ โดยทำสถิติปรับตัวขึ้นรายวันมากที่สุดในรอบเกือบสามสัปดาห์

ตลาดได้แรงหนุนหลังทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาอาจลดภาษีนำเข้าสินค้าจีน หากจีนทำสิ่งต่าง ๆ ให้กับสหรัฐฯ รวมถึงการกลับมาซื้อถั่วเหลือง ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นของตลาด

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังยืนยันเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่เกาหลีใต้ และ สก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ มีกำหนดพบกับคู่เจรจาจีนภายในสัปดาห์นี้

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นแรงหนุนหลักของดัชนี STOXX 600 โดยเพิ่มขึ้น 1.9% ดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทด้านการป้องกันประเทศนำตลาด โดยปรับตัวขึ้น 2.8% หลังจากฟื้นตัวจากการร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังมีข่าวการวางแผนจัดการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับสงครามในยูเครน

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ในท้ายที่สุดแล้ว โดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่สามารถยุติสงครามได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น ความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้นจึงยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะนำไปสู่การเทขายอย่างต่อเนื่องในกลุ่มหุ้นป้องกันประเทศ

หุ้น Rheinmetall พุ่งขึ้น 5.9%, หุ้น Hensoldt พุ่งขึ้น 7.9% และหุ้น Renk ปรับตัวขึ้น 6.8%

หุ้นกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 1% ในวันจันทร์ หลังจากหุ้นธนาคารสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากผลประกอบการรายไตรมาสของธนาคารระดับภูมิภาคซึ่งช่วยลดความกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านสินเชื่อ

ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดีดกลับมาปิดบวกหลังจากร่วงลงในช่วงแรก โดยถูกกดดันจากการที่ S&P Global ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงหนึ่งขั้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเตือนว่าความไม่มั่นคงทางการเมืองอาจกระทบต่อความพยายามของรัฐบาลในการฟื้นฟูฐานะการคลัง

หุ้น Kering พุ่งขึ้น 4.8% หลังจากเจ้าของแบรนด์ Gucci ตกลงขายธุรกิจเครื่องสำอางให้กับ L’Oreal มูลค่า 4 พันล้านยูโร (4.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่งผลให้ดัชนีหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้นโดยรวม ขณะที่ L’Oreal เพิ่มขึ้น 1.2%

BNP Paribas ร่วงลง 7.7% หลังจากคณะลูกขุนในสหรัฐฯ ตัดสินว่าธนาคารฝรั่งเศสแห่งนี้มีส่วนช่วยรัฐบาลซูดานก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยให้บริการทางการเงินที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 68)