ราคาทองเช้านี้เปิดร่วง 550 บาท จับตาผลเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน

ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศเปิดตลาดเช้านี้ปรับลงบาททองคำละ 550 ตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก

โดยสมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำ (96.5%) ครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.05 น. ดังนี้

– ทองคำแท่ง รับซื้อบาททองคำละ 63,050 บาท ขายออกบาททองคำละ 63,150 บาท

– ทองรูปพรรณ รับซื้อบาททองคำละ 61,792.16 บาท ขายออกบาททองคำละ 63,950 บาท

บทวิเคราะห์จากบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส์ จำกัด ระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลง (-139.3) ดอลลาร์ หรือราว (-3.28%) หลังจากขึ้นติดต่อกัน 9 สัปดาห์ ทำ All-time High ที่ 4,111.5 ดอลลาร์ และทำจุดต่ำสุดที่ 4,004.4 ดอลลาร์ นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน โดยเจรจาล่าสุดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดย เจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายใกล้ถึงจุดที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะตัดสินใจร่วมกันได้ว่าข้อตกลงจะเกิดขึ้นหรือไม่ภายในสัปดาห์หน้า การหารือครั้งนี้ครอบคลุมหลายประเด็นสำคัญ ทั้งการขยายระยะเวลาพักรบทางการค้าและการจัดการกับ แร่หายาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบยุทธศาสตร์

ทั่วโลกจับตาการพบปะระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ระหว่างการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่เกาหลีใต้ วันที่ 31 ตุลาคม-1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทิศทางความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองชาติมหาอำนาจ

แนวโน้มราคาทองคำโลกในสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวผันผวน ระยะสั้นภาพทางเทคนิคยังอยู่ในกรอบ Symmetrical Triangle ซึ่งสะท้อนถึงภาวะ “รอเลือกทาง” นักลงทุนกำลังจับตาปัจจัยข่าวสำคัญ โดยเฉพาะผลการเจรจาการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน ที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญต่อทิศทางทองคำ

หากการเจรจามีความคืบหน้าและนำไปสู่ข้อตกลงเชิงบวก อาจกระตุ้นแรงขายทำกำไรในตลาดทองคำได้รอบใหม่ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มหลักยังคงเป็น ขาขึ้น โดยมีแนวรับในกรอบ 4,000-4,040 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นบริเวณเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นด้านล่างและแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา หากราคาหลุดต่ำกว่าระดับนี้ มีแนวรับถัดไปที่ 3,890 ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านที่ 4,180 ดอลลาร์ และ 4,300 ดอลลาร์

สำหรับทองคำแท่งในประเทศ แนะนำให้นักลงทุน ทยอยสะสมเมื่อราคาปรับตัวลง ใกล้บริเวณ 62,700 บาท โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 62,500 บาท ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 64,200 บาท และ 65,600 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 68)