น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.16 กังวลโอเปกพลัสเพิ่มผลิต-ตลาดประเมินทรัมป์คว่ำบาตรรัสเซีย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันอังคาร (28 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากความเป็นไปได้ที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะประกาศปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกในการประชุมวันอาทิตย์นี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังประเมินว่า การที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซียว่าจะมีผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลกมากเพียงใด

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.89% ปิดที่ 60.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.86% ปิดที่ 64.40 ดอลลาร์/บาร์เรล

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในการประชุมวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย.นี้ สมาชิกทั้ง 8 ประเทศของกลุ่มโอเปกพลัส ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต โอมาน อิรัก คาซัคสถาน และแอลจีเรีย มีแนวโน้มที่จะประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 137,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. หลังจากที่ปรับเพิ่มกำลังการผลิต 137,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ย.เช่นกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อทวงคืนส่วนแบ่งตลาด

นักลงทุนประเมินผลกระทบของการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทรอสเนฟต์ (Rosneft) และลุคออยล์ (Lukoil) ซึ่งเป็นสองน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นขานรับข่าวการคว่ำบาตรดังกล่าว แต่ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ให้การรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ธุรกิจของบริษัทรอสเนฟต์ในเยอรมนีจะได้รับการยกเว้นจากการคว่ำบาตร เนื่องจากทรัพย์สินดังกล่าวไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียอีกต่อไป

นักวิเคราะห์จากบริษัท Price Futures Group กล่าวว่า การที่ทรัมป์ให้การยกเว้นแก่บริษัทรอสเนฟต์ในเยอรมนี ทำให้ตลาดไม่มั่นใจเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตร และยังทำให้กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวลดน้อยลงด้วย

นักลงทุนจับตาการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันพฤหัสบดีนี้ นอกรอบการประชุมเอเปคซึ่งจัดขึ้นที่เกาหลีใต้ ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ปธน.ทรัมป์และปธน.สี จะหารือเกี่ยวกับกรอบการค้าเพื่อลดภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บต่อสินค้าจีน แลกกับการที่จีนให้คำมั่นว่าจะควบคุมการส่งออกสารเคมีตั้งต้นของเฟนทานิล

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 4.02 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ต.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ในวันนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ต.ค. 68)