
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (APEC Economic Leaders’ Week – AELW) ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. – 1 พ.ย. 68 ณ เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี ภายใต้หัวข้อหลัก “Building a Sustainable Tomorrow” หรือ “เสริมสร้างวันพรุ่งนี้ที่ยั่งยืน” ซึ่งมุ่งเชื่อมโยงภูมิภาคด้วยนวัตกรรม และความร่วมมือเพื่อความรุ่งเรืองร่วมกัน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไทย ในฐานะหนึ่งในประเทศสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งเอเปค มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคมาอย่างต่อเนื่อง โดยไทยเคยเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคแล้ว 3 ครั้ง ได้แก่ ปี 2535, ปี 2546 และปี 2565 ซึ่งในปี 2565 ไทยได้ผลักดัน “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG” (Bangkok Goals on BCG Economy) ให้เป็นกรอบบูรณาการด้านความยั่งยืนฉบับแรกของเอเปค ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
ในการประชุมครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะใช้เวทีเอเปค เพื่อแสดงบทบาทของรัฐบาลใหม่ ในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นถึงศักยภาพเศรษฐกิจไทยต่อประชาคมโลก พร้อมย้ำการสนับสนุนระบบพหุภาคีนิยม (Multilateralism) ที่มีองค์การการค้าโลก (WTO) เป็นศูนย์กลาง ควบคู่กับการผลักดันสาขาความร่วมมือใหม่ที่เป็นโอกาสเชิงยุทธศาสตร์ของภูมิภาค เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) การปรับตัวต่อโครงสร้างประชากร และการพัฒนาเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน
สำหรับภารกิจสำคัญของนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 ทั้ง 2 ช่วง ได้แก่
– Session I (วันที่ 31 ต.ค.68) หัวข้อ “Towards a More Connected, Resilient Region and Beyond” ซึ่งไทยจะเน้นการเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือภาครัฐ–เอกชน เพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก
– Session II (วันที่ 1 พ.ย.68) หัวข้อ “Preparing a Future-Ready Asia-Pacific” ที่ไทยจะเสนอแนวทางเตรียมภูมิภาคให้พร้อมต่ออนาคตผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI นวัตกรรม และการสร้างการเติบโตที่ครอบคลุมและยั่งยืน
นอกจากนี้ ในการประชุมหลัก นายกรัฐมนตรีของไทย จะเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญของภาคธุรกิจ ได้แก่
– การประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจของเอเปค ประจำปี 2568 (2025 APEC CEO Summit) โดยนายกรัฐมนตรีจะกล่าวปาฐกถาพิเศษ ภายใต้หัวข้อ “Bridge Business Beyond”
– การหารือระหว่างผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค กับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (ABAC Dialogue with APEC Economic Leaders) เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง และผลักดันแนวทางความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน นวัตกรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืน
– การพบหารือ กับ US-APEC Business Coalition ซึ่งเป็นสมาคมธุรกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่เป็นสมาชิกที่มีบทบาทในเอเปค
– การหารือทวิภาคีกับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และภาคธุรกิจสำคัญ รวมถึงเข้าร่วมงานเลี้ยงแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Gala Dinner) เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับผู้นำ และผู้แทนภาคเอกชนสำคัญในภูมิภาค และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยบนเวทีเศรษฐกิจโลก

สำหรับการประชุมผู้นำเอเปคในปีนี้ ที่สาธารณรัฐเกาหลีเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้น ณ เมืองคยองจู เมืองมรดกโลกของยูเนสโก ภายใต้ 3 แนวคิดหลัก Connect – Innovate – Prosper เพื่อมุ่งเชื่อมโยงภูมิภาคด้วยนวัตกรรม และขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน โดยคาดว่าจะมีเอกสารผลลัพธ์สำคัญจำนวน 5 ฉบับ ได้แก่
1) ปฏิญญาคยองจูของผู้นำเอเปค ครั้งที่ 32
2) ข้อริเริ่มเอเปคด้านปัญญาประดิษฐ์ (APEC AI Initiative)
3) กรอบความร่วมมือรองรับการเปลี่ยนแปลงทางประชากรในภูมิภาค
4) ถ้อยแถลงผู้นำ ว่าด้วยความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์
5) ถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 36
“การประชุมเอเปคครั้งนี้ ถือเป็นเวทีเศรษฐกิจระหว่างประเทศครั้งสำคัญ ที่นายกรัฐมนตรีจะได้แสดงวิสัยทัศน์ และศักยภาพของเศรษฐกิจไทยสู่สายตาประชาคมโลก โดยมุ่งสร้างความเชื่อมั่น ขยายโอกาสทางการค้า และการลงทุน และยกระดับบทบาทของไทยให้โดดเด่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อย่างยั่งยืน” นายสิริพงศ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ต.ค. 68)





