
คณะลูกขุนของศาลรัฐบาลกลางในเมืองชิคาโกมีคำสั่งในวันพุธ (12 พ.ย.) ให้โบอิ้ง (Boeing) จ่ายเงินกว่า 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่ครอบครัวของชิกคา การ์ก เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมประจำสหประชาชาติ (UN) ที่เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินรุ่น 737 MAX ตกในเอธิโอเปียเมื่อปี 2562
คำตัดสินดังกล่าวถือเป็นคำตัดสินแรกจากคดีฟ้องร้องหลายสิบคดีที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนั้น และเหตุการณ์เครื่องบินตกในอินโดนีเซียเมื่อปี 2561 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 คน
ทนายฝ่ายครอบครัวการ์กเปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายบรรลุในเช้าวันพุธ ครอบครัวของการ์กจะได้รับเงินรวม 35.85 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นยอดเงินตามคำตัดสินเต็มจำนวนบวกด้วยดอกเบี้ยอีก 26% และทางโบอิ้งจะไม่ยื่นอุทธรณ์
โฆษกหญิงของโบอิ้งระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในเที่ยวบินทั้งสอง โดยระบุว่า “แม้ว่าเราสามารถยุติข้อเรียกร้องส่วนใหญ่ผ่านการระงับข้อพิพาทด้วยการยอมความได้ แต่ครอบครัวต่าง ๆ ก็มีสิทธิที่จะดำเนินการตามข้อเรียกร้องของตนผ่านการพิจารณาคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายในศาล และเราเคารพสิทธิของพวกเขาในการทำเช่นนั้น”
ชานิน สเปกเตอร์ และเอลิซาเบธ ครอว์ฟอร์ด ซึ่งเป็นตัวแทนทางกฎหมายของครอบครัวการ์กระบุในแถลงการณ์ว่า คำตัดสินนี้ได้มอบความรับผิดชอบต่อสาธารณะสำหรับการกระทำผิดของโบอิ้ง
ทนายความของการ์กระบุว่า เธอมีอายุ 32 ปี ในขณะที่เครื่องบินของสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ (Ethiopian Airlines) เที่ยวบิน 302 ซึ่งเดินทางจากกรุงแอดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ไปยังกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ประสบเหตุตกในเวลาเพียงไม่กี่นาทีหลังการบินขึ้น
คำร้องระบุว่า เครื่องบินรุ่น 737 MAX มีการออกแบบที่บกพร่อง และโบอิ้งล้มเหลวในการเตือนผู้โดยสารและสาธารณชนเกี่ยวกับอันตรายของเครื่องบิน
ทั้งนี้ เครื่องบินของเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ตก หลังจากที่ไลอ้อน แอร์ (Lion Air) เที่ยวบิน 610 ตกในทะเลชวาของอินโดนีเซียได้เพียง 5 เดือน โดยระบบควบคุมการบินอัตโนมัติเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทั้งสองครั้งดังกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ย. 68)





