หุ้นยุโรปปิดลบ หลังจนท.เฟดดับความหวังลดดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (14 พ.ย.) หลังจากถ้อยแถลงเชิงคุมเข้มนโยบายการเงินของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 574.81 จุด ลดลง 5.86 จุด หรือ -1.01%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,170.09 จุด ลดลง 62.40 จุด หรือ -0.76%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 23,876.55 จุด ลดลง 165.07 จุด หรือ -0.69% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,698.37 จุด ลดลง 109.31 จุด หรือ -1.11%

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเกือบ 2% และดัชนีที่สะท้อนความกังวลของนักลงทุนพุ่งขึ้น 1.66 จุด แตะจุดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์

ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ ถูกจับตาเป็นพิเศษในสัปดาห์นี้ นักลงทุนคาดว่า การกลับมาเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจจะสะท้อนสัญญาณเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีเหตุผลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. 2568

อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังนั้นลดลงหลังจากผู้กำหนดนโยบายของเฟดหลายรายส่งสัญญาณที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้ ความคาดหวังเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยและการยุติภาวะชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยาวนานที่สุด หนุนให้ดัชนี STOXX 600 ทำสถิติสูงสุดหลายครั้งในสัปดาห์นี้

สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์หรูอย่าง Richemont พุ่งขึ้น 7.5% หลังรายงานยอดขายไตรมาสล่าสุดสูงกว่าคาดอย่างมาก

หุ้น Siemens Energy พุ่งขึ้น 11.2% หลังบริษัทในเยอรมนีประกาศแผนจ่ายเงินปันผลครั้งแรกในรอบ 4 ปี และปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการระยะกลาง

หุ้น Bechtle ผู้ให้บริการไอที พุ่งขึ้น 14.4% หลังประกาศผลประกอบการ ขณะที่หุ้น Bavarian Nordic ผู้ผลิตวัคซีนของเดนมาร์ก ร่วงลง 6.5% หลัง ลุค เดอบรูน ประธานบริษัทประกาศว่าจะลงจากตำแหน่ง

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ย. 68)