
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรอบเวลาเก็บทุ่นระเบิดใน 13 พื้นที่ ว่า ไม่ได้มีการกำหนดเวลาไว้ เพราะการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ไม่สามารถเร่งรัดได้ ต้องดำเนินการตามลำดับ โดยที่ผ่านมาได้เสนอในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดใน 13 พื้นที่ ซึ่งขณะนี้เก็บกู้ไปแล้ว 5 พื้นที่ และจะดำเนินการต่ออีก 8 พื้นที่ หากแล้วเสร็จก็จะขยายการเก็บกู้ในพื้นที่อื่นต่อ
“แม้จะไม่ได้กำหนดเวลา แต่ให้เร่งรัดดำเนินการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดน และทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะดำเนินการเอง แต่ความจริงแล้วที่ประชุมอยากให้ทำร่วมกัน แต่กัมพูชายังไม่ตอบรับตรงนี้ ดังนั้นเราก็ต้องทำเอง ซึ่งฝ่ายกัมพูชาอยากให้รอ แต่เราคงรอไม่ได้แล้ว จากการสูญเสียไปถึง 7 ขา ดังนั้นเราต้องทำเอง และทำฝ่ายเดียว” พล.อ.ณัฐพล กล่าว
พร้อมขอประชาชนไม่ต้องกังวลใจ โดยฝ่ายไทยจะเร่งเก็บกู้ในพื้นที่ของเรา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนคนไทย และทหารไทยที่อยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่
ส่วนกรณี 18 เชลยศึกที่ไทยยังควบคุมตัวไว้ ซึ่งกัมพูชากล่าวหาว่าไทยจะนำมาใช้เป็นข้อต่อรองนั้น รมว.กลาโหม ยืนยันว่าจะยังไม่ปล่อยตัว เพื่อให้เห็นว่ากัมพูชายังไม่แสดงความสิ้นสุดการเป็นปรปักษ์ ซึ่งไม่ใช่เป็นเป็นการต่อรองแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่า เป็นการดำเนินการตามกฏหมายและหลักการ
ส่วนที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ท้าให้ประเทศไทยปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ไปเลย 100 ปีนั้น รมว.กลาโหม กล่าวว่า “ในเมื่อสมเด็จฮุนเซน บอกว่า 100 ปีไม่ต้องเปิดด่าน ผมก็สบายใจ ว่าชีวิตนี้ คงไม่ต้องคุยกับผมเรื่องเปิดด่านแล้ว” พร้อมมองว่า สิ่งที่กัมพูชาพูดนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า มีความมุ่งมั่นที่จะนำไปสู่สันติภาพจริงหรือไม่
“ฝากไปดูรายละเอียดในปฏิญญา Joint Declaration ให้ดี ที่ให้งดการยั่วยุ และต้องแสดงความมุ่งมั่นที่จะไปสู่สันติภาพ ซึ่งการที่กัมพูชาพูดแบบนั้น เป็นการมุ่งมั่นหรือไม่” รมว.กลาโหม ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 68)





