
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ด้วยการ “เพิ่มยอดขาย ลดรายจ่าย เสริมทักษะ” โดยรัฐบาลจะเพิ่มเงินให้ไม่เกินร้านค้าละ 2,000 บาท จำกัดสิทธิ์ไว้ที่ 4 แสนร้านค้า
ทั้งนี้ ร้านค้าที่จะได้รับเงินเพิ่มดังกล่าว จะต้องร่วมพัฒนาทักษะการขายผ่าน 1 ใน 3 ช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.-19 ธ.ค.68 ดังนี้
1. เพิ่มยอดขายผ่านออนไลน์ โดยเพิ่มโอกาสทางการขายจากร้านค้าออฟไลน์สู่ออนไลน์ สำหรับร้านอาหาร-เครื่องดื่ม โดยเข้าร่วมกับ ฟู้ดเดลิเวอรี่ ใน 4 แพลตฟอร์ม คือ Lineman, Grab, Robinhood และ ShopeeFood
2. เพิ่มความรู้เสริมสภาพคล่อง โดยสมัครและเรียนหลักสูตร Smart Finance ซึ่งเป็นการ Upskill หลักสูตรพัฒนาความรู้ทางการเงิน กับธนาคารออมสิน ที่ www.gsb.go.th สำเร็จตามเงื่อนไขที่กำหนด
3. เพิ่มทักษะบริหารจัดการธุรกิจ โดยสมัครเรียนหลักสูตร DBD Academy ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผ่าน https://dbdacademy.dbd.go.th สำเร็จตามเงื่อนไขที่กำหนด
“ถือเป็นการต่อยอดโครงการคนละครึ่ง พลัส เพื่อกระตุ้นและจูงใจให้ร้านค้าพัฒนาธุรกิจของตนเอง ผ่านการเรียนรู้ทักษะที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเงิน (Financial Literacy) และด้านดิจิทัล (Digital Literacy) เช่น การทำบัญชี การตลาดดิจิทัล การส่งเสริมการขาย และการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น” นายเอกนิติ ระบุ

โดยมีรายละเอียดโครงการฯ ดังนี้
1. ระยะเวลาการพัฒนาทักษะ: ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.-19 ธ.ค.68
2. กลุ่มเป้าหมาย: ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส จำนวนไม่เกิน 400,000 ราย
3. คุณสมบัติของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ:
– เป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส ในวันก่อนเริ่มดำเนินการพัฒนาทักษะ
– ได้ตกลงให้ความยินยอม (Consent) ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และข้อตกลงเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของโครงการฯ ก่อนดำเนินการพัฒนาทักษะ
– เข้าร่วมการพัฒนาทักษะ โดยใช้เลขประจำตัวประชาชน (กรณีบุคคลธรรมดา) หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (กรณีนิติบุคคล) ที่ตรงกับการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส เท่านั้น
– ไม่เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ในโครงการคนละครึ่ง พลัส
– ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิ หรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 1-5 และโครงการคนละครึ่ง พลัส
ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบในภายหลังว่า ร้านค้ามีการกระทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการของรัฐข้างต้น จะถูกตัดสิทธิจากโครงการฯ
4. วิธีดำเนินการ:
ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง พลัส สามารถเลือกเข้าร่วมการพัฒนาทักษะระหว่างวันที่ 19 พ.ย.-19 ธ.ค.68 อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้
4.1 เข้าร่วมเป็นร้านค้าบนแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่ต้องการพัฒนาพัฒนาทักษะผ่านการเข้าร่วมเป็นร้านค้าบน Food Delivery Platform สามารถดำเนินการได้ ดังนี้
(1) เลือกสมัครเข้าร่วมเป็นร้านค้าบน Food Delivery Platform (ได้แก่ Grab, Lineman, Robinhood และ ShopeeFood) ในระหว่างวันที่ 19 พ.ย. – 19 ธ.ค.68
ทั้งนี้ ร้านค้าจะต้องไม่เคยสมัครเข้าร่วมเป็นร้านค้าของ Food Delivery Platform รายนั้น ก่อนวันที่ 19 พ.ย.68 ตามฐานข้อมูล ณ วันที่ 18 พ.ย.68 นอกจากนี้ ร้านค้าต้องมีคำสั่งซื้อที่ใช้สิทธิผ่านโครงการคนละครึ่ง พลัส อย่างน้อย 5 รายการ ภายในวันที่ 19 ธ.ค.68 จึงจะถือว่าได้ดำเนินการพัฒนาทักษะสำเร็จ
(2) ต้องเลือกผูกร้านค้าของตนกับ Food Delivery Platform บนแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ให้สำเร็จ ในระหว่างวันที่ 19 พ.ย.-19 ธ.ค.68
(3) ร้านค้าต้องมีคำสั่งซื้อที่ใช้สิทธิผ่านโครงการคนละครึ่ง พลัส สำเร็จ (ไม่มีการยกเลิกคำสั่งซื้อ) อย่างน้อย 5 รายการ ภายในวันที่ 19 ธ.ค.68 จึงจะถือว่าได้ดำเนินการพัฒนาทักษะสำเร็จ
4.2 เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ ของ “ธนาคารออมสิน”
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่ต้องการพัฒนาพัฒนาทักษะ ผ่านการอบรมออนไลน์ของธนาคารออมสิน สามารถเข้าร่วมได้ 24 ชั่วโมง โดยดำเนินการ ดังนี้
(1) สมัครและเรียนหลักสูตรพัฒนาความรู้ทางการเงินผ่าน www.gsb.or.th ในระหว่างวันที่ 19 พ.ย. – 19 ธ.ค.68 โดยผู้ประกอบการร้านค้า ต้องเข้าเรียนด้วยตนเองตลอดระยะเวลาหลักสูตร
(2) ผู้ประกอบการร้านค้าต้องทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) และหลังเรียน (Post-test) โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
– กรณีมีคะแนนทดสอบก่อนเรียน เท่ากับ 100% (ได้คะแนนเต็ม) ถือว่าผู้ประกอบการร้านค้าไม่เข้าข่ายที่จะพัฒนาทักษะได้สำเร็จผ่านช่องทางของธนาคารออมสิน ซึ่งธนาคารออมสิน จะไม่ส่งผลการอบรมดังกล่าวไปยังกระทรวงการคลังเพื่อประมวลผล อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการร้านค้ายังสามารถเลือกพัฒนาทักษะผ่านช่องทางอื่นได้
– ผลคะแนนการทดสอบที่ถือว่าได้ดำเนินการพัฒนาทักษะสำเร็จ ได้แก่ (1) คะแนนทดสอบหลังเรียน (Post-test) ต้องไม่น้อยกว่า 60% และ (2) คะแนนทดสอบหลังเรียน (Post-test) ต้องมากกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน (Pre-test)
4.3 เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ ของ “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์”
(1) สมัครและเรียนรู้หลักสูตร DBD Academy ผ่าน https://dbdacademy.dbd.go.th/ ในระหว่างวันที่ 19 พ.ย. – 19 ธ.ค.68 โดยผู้ประกอบการร้านค้าต้องเข้าเรียนด้วยตนเอง ตลอดระยะเวลาหลักสูตร
(2) ผู้ประกอบการร้านค้าต้องทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) และหลังเรียน (Post-test) โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
– กรณีมีคะแนนทดสอบก่อนเรียน เท่ากับ 100% (ได้คะแนนเต็ม) ถือว่าผู้ประกอบการร้านค้าไม่เข้าข่ายที่จะพัฒนาทักษะได้สำเร็จผ่านช่องทางของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะไม่ส่งผลการอบรมดังกล่าวไปยังกระทรวงการคลังเพื่อประมวลผล อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการร้านค้ายังสามารถเลือกพัฒนาทักษะผ่านช่องทางอื่นได้
– ผลคะแนนการทดสอบที่ถือว่าได้ดำเนินการพัฒนาทักษะสำเร็จ ได้แก่ (1) คะแนนทดสอบหลังเรียน (Post-test) ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และ (2) คะแนนทดสอบหลังเรียน (Post-test) ต้องมากกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน (Pre-test)
5. สิทธิประโยชน์: ร้านค้าที่ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพัฒนาทักษะจำนวนไม่เกิน 400,000 รายแรก จะได้รับสิทธิเงินสนับสนุนจากภาครัฐ 20% ของยอดขายที่เกิดจากโครงการคนละครึ่ง พลัส เฉพาะในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย นับตั้งแต่วันที่ร้านค้าได้ดำเนินการพัฒนาทักษะสำเร็จ จนถึงวันที่ 19 ธ.ค.68 แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท/ราย
โดยกระทรวงการคลัง จะประกาศผลผู้ได้รับสิทธิในวันที่ 23 ธ.ค.68 ผ่านข้อความบนแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และข้อความสั้น (SMS) และโอนเงินสนับสนุนให้แก่ร้านค้าผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย (KTB) ที่ผูกกับแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ในวันที่ 25 ธ.ค.68
อนึ่ง ผู้ประกอบการร้านค้า สามารถศึกษาหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการฯ ลิ้งก์เชื่อมโยงไปยังหน้าการอบรมออนไลน์ คำแนะนำการเข้าร่วมเป็นร้านค้าบน Food Delivery Platform และรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง www.คนละครึ่งพลัส.com

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 68)





