
นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.วีบูลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัท ได้เปิดตัวฟังก์ชันเทรดหุ้นผ่านแอปพลิเคชัน Webull เทรดหุ้นไทย หรือแม้แต่กองทุน ETFs ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt : DR) ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants : DW) และวอร์แรนท์ (Warrant) สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในปี 69 ของ Webull ที่ต้องการขยายตัวเลือกสินทรัพย์ที่หลากหลายไปยังทั่วโลกอย่างแท้จริง พร้อมกับการสร้างความเชื่อมั่นผ่านการยกระดับแพลตฟอร์มการลงทุนด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ให้ตอบโจทย์นักลงทุนไทยแบบครบทุกมิติอยู่เสมอ
“การเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนที่ใช้แอปพลิเคชัน Webull สามารถเทรดหุ้นไทย และสินทรัพย์อื่นๆในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้นั้น ถือเป็นการยกระดับการให้บริการของเราไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเทรด และลงทุนได้อย่างครบครันทั้งในส่วนของหุ้นไทย และหุ้นนอกในแอปพลิเคชันเดียว” นายชลเดช กล่าว

WEBULL เข้าเป็นสมาชิกหมายเลข 9 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ เน้นการให้บริการซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และยังได้รับการอนุมัติให้เป็นสมาชิกสำนักหักบัญชีหลักทรัพย์ ภายใต้บริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด (TCH) และสมาชิกบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) ด้วย
นายชลเดช กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีหุ้นที่มีศักยภาพ และส่วนใหญ่เป็นหุ้นในกลุ่ม Defensive ที่มูลค่าไม่แพง อีกทั้งให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่ดีราว 7-8% ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนระดับนี้ถือว่าค่อนข้างหายากมากในการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของหุ้นไทยที่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้ภายใต้ภาวะตลาดผันผวน
นอกจากนี้ บริษัทยังเล็งเห็นถึงการดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่เน้นการลงทุนในหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก หันมาเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพราะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ได้เช่นกัน ประกอบกับในปีหน้าตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีโครงการ TISA ที่ให้ออมหุ้นไทยและสามรถลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีความสนใจในการให้บริการซื้อ-ขายหุ้นไทย และทำให้แพลตฟอร์ม Webull เปิดให้บริการซื้อ-ขายหุ้นไทยเป็นลำดับที่ 2 ต่อจากการให้บริการซื้อ-ขายหุ้นสหรัฐ
บริษัทยังมอบสิทธิประโยชน์ 2 ต่อที่นักลงทุนจะได้รับเมื่อเทรดหุ้นไทยผ่านแอปพลิเคชัน Webull โดยในส่วนของสิทธิประโยชน์ต่อที่ 1 เมื่อซื้อหุ้นไทย 1 รายการ (มูลค่าเท่าใดก็ได้) ภายในช่วงเวลาที่กำหนดผู้ลงทุนจะได้รับ DR ฟรี 10 หน่วย จากหุ้นสหรัฐฯ 7 บริษัท รวมสูงสุด 70 หน่วย (มูลค่ารวมกว่า 200 บาท) หลังจบแคมเปญ ซึ่งระยะเวลาของสิทธิประโยชน์ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 68 เวลา 09:30 น. ไปจนถึงวันที่ 30 ธ.ค. 68 เวลา 17:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
สำหรับสิทธิประโยชน์ต่อที่ 2 ผู้ลงทุนจะได้รับส่วนลดค่าคอมมิชชันทั้งหมด 30% ทั้งสำหรับการซื้อขายหุ้นไทย (จากปกติ 0.04% เหลือเพียง 0.028% ของมูลค่าซื้อขาย) และการซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ (จากปกติ 0.10% เหลือเพียง 0.07% ของมูลค่าซื้อขาย) ซึ่งระยะเวลาของสิทธิประโยชน์ในครั้งนี้ เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 68 เวลา 00:00 น. ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค. 69 เวลา 23:59 น. ตามเวลาประเทศไทย เท่านั้น โดยเงื่อนไขทั้งหมดจะเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ส่วนปี 69 Webull ยังคงเดินหน้าในการพัฒนาและต่อยอดการใหิบร์การอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปที่การให้ความรู้แก่ผู้ลงทุน ผ่านการจัดอบรมและสัมมนา รวมถึงการสร้างคอมมูนิตี้ที่สามารถให้ผู้ลงทุนสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ซึ่งกันและกัน รวมยังเตรียมเพิ่มบริการซื้อ-ขายหุ้นฮ่องกงเพิ่มเข้ามาในปี 69 โดยผสานเครือข่ายของ Webull ที่มีในฮ่องกงเข้ามาต่อยอดการพัฒนาให้กับผู้ลงทุนไทยได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 68)





