
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เผยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ยังคงน่าเป็นห่วง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ครอบคลุมพื้นที่ 86 อำเภอ 515 ตำบล 3,620 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 653,568 ครัวเรือน 1,475,089 คน ซึ่ง ปภ.ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทั่วประเทศระดมทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อสนับสนุนการปฎิบัติงานของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา ในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
โดยเมื่อวานนี้ (22 พ.ย.68) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและทรัพยากรบางส่วนได้ทยอยเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.สงขลาแล้ว อาทิ เรือพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 4 ชุด และรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ปราจีนบุรี เรือพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 10 ชุด รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดใหญ่ติดตั้งเครน จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 1 คัน จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 14 อุดรธานี เรือพร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 4 ชุด รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 1 คัน รถบรรทุกติดตั้งชุดสูบน้ำท่วม/ขัง จำนวน 1 คัน รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 1 คัน รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดใหญ่ติดตั้งเครน จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 1 คัน จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย ซึ่งทั้งหมดได้เริ่มปฎิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายจากจังหวัดสงขลาแล้ว
นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต กว่า 14 รายการ ที่เดินทางถึงพื้นที่ช่วงเย็นวานนี้ (22 พ.ย. 68) และบางส่วนที่อยู่ในระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ทรัพยากรจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 13 อุบลราชธานี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 กำแพงเพชร และ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง รวมแล้วกว่า 38 รายการ ที่พร้อมปฎิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยทันทีที่เดินทางถึงพื้นที่
ส่วนสถานการณ์อุทกภัยน้ำไหลหลากในน้ำล้นตลิ่งในลุ่มน้ำเจ้าพระยาพบว่ายังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 11 จังหวัดภาคเหนือและภาคกลาง ได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาทอ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานีนนทบุรี และนครปฐม กินพื้นที่ 49 อำเภอ 440 ตำบล 2,896 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 144,733 ครัวเรือน 488,526 คน ภาพรวมระดับน้ำลดลง โดย ปภ.จะยังคงติดตามสถานการณ์และประสานการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสถานการณ์และประกาศแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีคำสั่งให้อพยพ ขอให้อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยทันที และหากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุหรือขอรับความช่วยเหลือได้ที่ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยการเพิ่มเพื่อนผ่าน LINE ID @1784DDPM หรือโทรสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 68)




