
นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ขานรับ Sentiment หนุน จากเจ้าหน้าที่เฟดให้ความเห็นการลดดอกเบี้ยสหรัฐในการประชุมเฟดเดือนธ.ค.มากขึ้น ประกอบกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนออกมาในเชิงบวก พร้อมให้แนวต้าน 1,260-1,265 จุด แนวรับ 1,245-1,250 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม กรรมการบริหาร บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ และตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาปรับขึ้นเช่นเดียวกัน รับความคาดหวังจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความเห็นถึงการลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.มากขึ้น ทำให้ตลาดคลายกังวลลงหนุน Sentiment ตลาดหุ้น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากสหรัฐและจีนมีการเจรจาการค้ากันที่ค่อนข้างออกมาเชิงบวก
ส่วนวันนี้ติดตามการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
โดยให้แนวต้าน 1,260-1,265 จุด แนวรับ 1,245-1,250 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (24 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,448.27 จุด เพิ่มขึ้น 202.86 จุด หรือ +0.44%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,705.12 จุด เพิ่มขึ้น 102.13 จุด หรือ +1.55% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,872.01 จุด เพิ่มขึ้น 598.92 จุด หรือ +2.69%
- ตลาดหุ้นเอเชียภาคเช้าเปิดบวก ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 49,113.82 จุด เพิ่มขึ้น 487.94 จุด หรือ +1.00%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,948.90 จุด เพิ่มขึ้น 232.40 จุด หรือ +0.90% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,850.57 จุด เพิ่มขึ้น 13.80 จุด หรือ +0.36%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 พ.ย.) 1,252.73 จุด ลดลง 1.67 จุด (-0.13%) มูลค่าซื้อขาย 41,791.28 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (24 พ.ย.) 1,129.05 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. (24 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1.29% ปิดที่ 63.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 พ.ย.) อยู่ที่ 5.83 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.33/35 แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค จับตาตัวเลขส่งออกวันนี้
- น้ำท่วมภาคใต้ขยายวงกว้าง 10 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อน 1.9 ล้านคน นายกฯ คาดคลี่คลายในสัปดาห์นี้ ยืนยันมีงบเยียวยา ธปท.เร่งประสานแบงก์ช่วยเหลือลูกหนี้ ม.หอการค้า ประเมินท่วม 1 เดือนเสียหาย 1.5 หมื่นล้าน ธุรกิจอสังหาฯ หาดใหญ่ กระทบหนัก ททท.เผยนักท่องเที่ยวมาเลเซียยกเลิกเดินทางทั้งหมด ห่วงความปลอดภัย สื่อมาเลเซีย ประโคมข่าวน้ำท่วม “กลาโหมมาเลเซีย” พร้อมช่วยไทย
- “เครดิตบูโร” ถอดบทเรียน 20 ปี ชี้วิกฤติซ้อนวิกฤติ เร่ง “หนี้ครัวเรือน-หนี้เสียเอสเอ็มอี” พุ่ง จับตาแผนโอน “เอ็นพีแอล” รายเล็ก 3 ล้านรายสู่ “เอเอ็มซี” รูปแบบใหม่ พร้อมเตือนลบประวัติเครดิตเท่ากับพาประเทศถอยหลังสู่ยุค “คนตาบอดปล่อยกู้” ด้าน “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” คาดเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลหนี้เสียไหลแย่ลง
- สศช.ชี้ไทยต้องวางรากฐานรายได้รัฐ ก่อนภาระสังคมดันหนี้สาธารณะทะลุ 68% ในปี 73 เผยผลศึกษา “บทเรียนขึ้น VAT ทั่วโลก” พบหลายประเทศทยอยขึ้น มีช่วงเปลี่ยนผ่าน และเยียวยาผู้มีรายได้น้อย ถ้าไทยขึ้น 1% รายได้รัฐเพิ่ม 93,000 ล้านบาทต่อปี รองรับสวัสดิการสังคมได้ ผวา! หนี้บ้านถูกยึดพุ่ง 210%
- การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (25 พ.ย.) กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอมาตรการค่าโดยสาร 40 บาทตลอดวัน สำหรับรถไฟฟ้าสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน และรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ เพื่อลดค่าครองชีพประชาชนต่อเนื่องอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.68-30 พ.ย.69 หลังจากมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทจะสิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.นี้
- ครม.เศรษฐกิจมีมติให้นำร้านค้าทั้งหมดในโครงการคนละครึ่ง พลัส เชื่อมเข้าระบบบัตรสวัสดิการ ช่วยขยายช่องทางขายเดินหน้าเพิ่มความยั่งยืนให้ร้านค้า หลังประชาชนตอบรับดี เงินหมุนเวียนทะลุ 54,132 ล้านบาท ร้านค้าใกล้แตะ 1 ล้านร้านค้า
- นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. กำลังแก้ไขปัญหาความเสี่ยงด้านต้นทุนเครดิต ร่วมกับรัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง และสมาคมธนาคารไทย จัดตั้งกลไกค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอี คาดว่าใช้แหล่งเงินจากค่าธรรมเนียมกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินที่ยังเหลืออยู่ หรือใช้ของปี 69 ประมาณ 20,000 ล้านบาท เป็นกองทุนหรือกลไก อยู่ระหว่างหารือ โดยจะเข้ามาค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีวงเงิน 100,000 ล้านบาท คาดว่าจะเสร็จสิ้นออกมาได้ภายในสิ้นปีนี้ และเริ่มในปี 69
- ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบมาตรการเร่งรัดการลงทุนและการส่งเสริมการลงทุนเพื่ออนาคต ผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ มาตรการไทยแลนด์ ฟาสต์พาสส์ ลดอุปสรรคเร่งรัดให้เกิดการลงทุนโดยเร็ว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ การพัฒนานิคมอุตสาหกรรม การผลิตพลังงานสะอาด และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
หุ้นเด่นวันนี้
- MTC (พาย) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 48.00 บาท ผลงานไตรมาส 3/68 แข็งแกร่ง กำไร 1.7 พันล้านบาท (+16% YoY, +5% QoQ) และ NPL ratio ทรงตัวที่ 3.6% คงประมาณการคาดกำไรสุทธิปี 68 ขยายตัว 14% ดังนั้น คาดกำไรไตรมาส 4/68 ขยายตัวต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวล้อกับสินเชื่อที่แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง
- BTG (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 21.20 บาท แนวโน้มผลงานช่วงถัดไปคาดฟื้นตัวตามราคาหมูที่เริ่มปรับตัวขึ้น 6 สัปดาห์ติดต่อกัน สอดคล้องกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรที่ออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อและลดอุปทานลง ในขณะที่ Valuation ปัจจุบันยังคงน่าดึงดูด โดยซื้อขายเพียง PE 5 เท่า
- MINT (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 34.50 บาท Valuation ถูกสุดในกลุ่มโรงแรม QTD -9.2% เทียบ SET -3.3% ช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากถูกแรงขายจากการลดน้ำหนักของ MSCI เป็นหลัก ขณะที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 เติบโตจากทั้งการลดดอกเบี้ยและฤดูกาลท่องเที่ยวไทย โดย QTD RevPar ของไทย +11%YoY ณ ราคาปัจจุบัน ถูกซื้อขายที่ PE’69 ที่ 12 เท่า ถูกที่สุดในกลุ่มโรงแรม (ค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 17 เท่า) ขณะที่ EPS’69 โตถึง 24% มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 21%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 68)





