
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 28.1-55.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 58 พื้นที่ โดยพื้นที่ 10 อันดับแรกที่มีค่าฝุ่นสูงสุด ได้แก่
1. เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 55.6 มคก./ลบ.ม.
2. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 54.8 มคก./ลบ.ม.
3. เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 54.8 มคก./ลบ.ม.
4. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 54.2 มคก./ลบ.ม.
5. เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี : มีค่าเท่ากับ 52.8 มคก./ลบ.ม.
6. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 52.5 มคก./ลบ.ม.
7. เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 52.2 มคก./ลบ.ม.
8. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 51.8 มคก./ลบ.ม.
9. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 50.8 มคก./ลบ.ม.
10. เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 50.6 มคก./ลบ.ม.

สำหรับข้อแนะนำสุขภาพ คุณภาพอากาศระดับสีส้ม คือเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยประชาชนทั่วไป ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรม หรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ทั้งนี้ ในวันที่ 1-2 และ 7 ธ.ค. การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “อ่อน/ไม่ดี” ขณะเกิดอินเวอร์ชันใกล้ผิวพื้น จึงคาดว่าแนวโน้มความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีค่าสูงขึ้น ส่วนในวันที่ 3-6 ธ.ค. การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “อ่อน/ไม่ดี” แต่มีลมแรงเนื่องจากความกดอากาศสูงแผ่ลงมา จึงคาดว่าแนวโน้มความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีค่าลดลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 68)





