
นายเกรียงไกร พานดอกไม้ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงว่า เรื่องการบริจาคเงินตามประเพณี หรือมีเหตุอันสมควร ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยกรณีการให้ในแต่ละโอกาสตามประเพณี เช่น งานศพ, งานบุญ, งานขึ้นบ้านใหม่ ทางพรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง ซึ่งเป็น สส. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่เกิน 3,000 บาท
ส่วนกรณีเมื่อมีเหตุอันสมควรแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งเป็นสส. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บริจาคได้ไม่เกินโอกาสละ 300,000 บาท ส่วนพรรคการเมือง บริจาคได้ในแต่ละโอกาสไม่เกิน 3,000,000 บาท หากบริจาคเกินจากที่กำหนด จะถูกกันยอดในส่วนที่เกินไปนั้นไว้ใช้สำหรับการเลือกตั้งครั้งถัดไป เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันมากเกินไป
ทั้งนี้ การบริจาคในกรณีภัยพิบัตินี้ สามารถบริจาคให้บุคคล หรือองค์กร หน่วยงานใดก็ได้ ไม่จำเป็นว่าต้องบริจาคผ่านหน่วยงานที่กำหนดเท่านั้น
“กกต. ไม่ได้ปิดกั้น ไม่ได้ห้าม อย่างกรณีน้ำท่วม สส. บริจาคได้เต็มที่เลย ภายใต้วงเงินตามที่บอกในแต่ละโอกาส ถือว่าเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน พรรคไหน ใครมีศักยภาพเท่าไร ก็ไปดูแลประชาชนในพื้นที่ของตัวเองได้ และหาก สส. จะบริจาคข้าวสาร หรือสิ่งของสามารถโฆษณาได้ว่าเป็น สส.ในพื้นที่นี้ เป็นพรรคการเมืองนี้ได้ จะติดสติกเกอร์ของบริจาคได้เต็มที่เลย ต่างจากท้องถิ่นถ้าอยู่ในห้วง 180 วันก่อนครบวาระ ผู้ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นจะบริจาค จะทำอะไรมันก็สุ่มเสี่ยงมาก ๆ เลย แต่ถ้าเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถทำได้ตามมาตรา 65 จะบริจาค จะดูแลประชาชนในพื้นที่ปกครองท้องถิ่น จะอนุมัติงบประมาณใหม่ สามารถทำได้ แต่ต้องระมัดระวังด้วย ต้องไม่บอกว่านายกคนนั้น คนนี้ อันนี้อันตราย อาจจะนำมาสู่การผิดกฎหมายได้” นายเกรียงไกร กล่าว
ส่วนการตรวจสอบ ป้องกันการบริจาคในอัตราที่เกินจากกฎหมายกำหนด ผ่านญาติ หรือนอมินีนั้น นายเกรียงไกร กล่าวว่า เดิมตนก็เข้าใจว่าในส่วนของนักการเมือง บริจาคน้ำท่วม 1 เหตุการณ์ได้ไม่เกิน 300,000 บาท แต่ในข้อเท็จจริงคือ 1 คนจะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ในเหตุการณ์ภัยพิบัตินั้น ๆ แต่การบริจาค 1 ครั้ง จะบริจาคได้ไม่เกิน 300,000 บาท ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลให้ผู้อื่นไปบริจาคแทน
“หาก สส.บริจาควันนี้ 300,000 บาท พรุ่งนี้ 300,000 บาท และวันต่อ ๆ ไป วันละ 300,000 บาท ก็สามารถทำได้ ตอนนี้เป็นมติ กกต. แล้ว และไม่มีกำหนดว่าบริจาคได้แค่กี่วัน เพราะภัยพิบัติ ไม่ได้นานเป็นเดือนสองเดือน” นายเกรียงไกร ระบุ
ด้าน ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เรื่องของการบริจาคเงินช่วยผู้ประสบอุทกภัย ก่อนหน้านี้ เลขาธิการ กกต. อาจจะพูดสั้นไปหน่อย แต่จริง ๆ แล้วสามารถบริจาคได้หมด ระวังแค่ผู้ที่จะสมัครเท่านั้น เนื่องจากระเบียบเกี่ยวกับการหาเสียงมีผลแล้ว เช่น เรื่องการสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สิน รวมถึงเงินเพื่อจูงใจให้ลงคะแนน ย้ำว่านี่ไม่ใช่กฎเหล็ก แต่เป็นกฎหมาย ส่วนเรื่องร้องเรียนตอนนี้ยังไม่มีเข้ามา
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาประมาณ 1,700 เรื่อง ปีนี้จึงตั้งเป้าว่าจะมีการร้องเรียนลดลงเหลือราว ๆ 1,500 เรื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ร้องเรียนเข้ามา ไม่ใช่แค่การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องการเข้าใจผิดว่าทำผิดกฎหมายด้วย
“ถ้าเราชี้แจงให้ผู้สมัคร และผู้เกี่ยวข้องว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ก็จะช่วยลดเรื่องร้องเรียนลงได้ ซึ่งทุก ๆ การเลือกตั้ง เมื่อเรามีการชี้แจง ประชาสัมพันธ์แล้ว จะมีการร้องเรียนลดลงประมาณ 200-400 เรื่อง แสดงว่ามีความเข้าใจมากขึ้น” รองเลขาธิการ กกต. ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ธ.ค. 68)





