นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ โดยที่ยังมีปัจจัยหนุนตลาดหุ้นอยู่บ้างจากท่าทีของสหรัฐฯ ในเรื่องสงครามการค้าที่มีความประนีประนอมมากขึ้น ซึ่งอาจผ่อนคลายการลดภาษีนำเข้าสินค้าต่ำกว่า 10% หากมีข้อตกลงทางการค้าที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดคลายกังวลลงไปได้บ้าง ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ก็ปรับตัวขึ้นมาได้แรง และเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นตามเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน Sentiment ให้กับตลาดหุ้นไทย ทำให้ขาดแรงส่งดัชนีให้ฟื้นตัวกลับขึ้นไปต่อได้
โดยให้แนวต้าน 1,175 จุด แนวรับ 1,150 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,343.65 จุด เพิ่มขึ้น 740.58 จุด หรือ +1.78%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,921.54 จุด เพิ่มขึ้น 118.72 จุด หรือ +2.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,199.16 จุด เพิ่มขึ้น 461.96 จุด หรือ +2.47%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,094.79 จุด เพิ่มขึ้น 370.68 จุด หรือ +0.98%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,385.18 จุด เพิ่มขึ้น 3.19 จุด หรือ +0.01% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,341.85 จุด เพิ่มขึ้น 1.16 จุด หรือ +0.03%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 พ.ค.) 1,163.42 จุด ลดลง -15.01 จุด (-1.27%) มูลค่าซื้อขาย 34,845.62 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (27 พ.ค.) 2,197.68 ล้านบาท
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. (27 พ.ค.) ลดลง 64 เซนต์ หรือ 1.04% ปิดที่ 60.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 พ.ค.) อยู่ที่ 6.58 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 32.69 ตลาดจับตารายงานเฟด-ถ้อยแถลงจนท.-ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ
– “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ยุบสภาและไม่เปลี่ยนนายกฯ ย้ำกับ “ภูมิใจไทย” รักกันดี ร่วมกันทำงานจนครบวาระแน่นอน ส่วนหุ้นไทยวานนี้ร่วง 15.01 จุด กังวลสงครามการค้าไม่คืบ หวั่นการเมืองมีปัญหา
– รัฐมนตรีคลังเปิดแผนอุ้มเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤต ปัดฝุ่นโครงการในสต็อกสภาพัฒน์ 3 ล้านล้านบาท เร่งใช้งบฯ 1.57 แสนล้านแบบเร่งด่วน เทงบฯลงทุน “ระบบน้ำ-ถนน-สนามบิน” แก้โจทย์เศรษฐกิจทั้งภาคเกษตร-ท่องเที่ยว-ภาคผลิต เพิ่มขีดแข่งขันประเทศ พ่วงมาตรการจ้างงาน ใส่เงินกองทุนหมู่บ้าน SML รัฐบาลเดินแผนหารายได้เพิ่มตุนกระสุน ควบคู่เร่งฟื้นเชื่อมั่น “ลงทุนเอกชน” หลังหดตัวหนัก ชี้เครื่องยนต์หลัก “อ่อนแรง” พร้อมปรับเงื่อนไขส่งเสริมลงทุนคุม FDI “จีน” ตอบโจทย์สหรัฐ
– ผู้ว่าแบงก์ชาติส่งหนังสือถึงรัฐบาล แนะตีกรอบใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ดูแลผู้ส่งออกสินค้าไปสหรัฐและผู้ผลิตที่กระทบจากสินค้าทะลักเข้าไทย หลังจากปี 2565-2567 สินค้านำเข้าสุดท้ายเพิ่ม 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ชี้ SMEs ปรับตัวยาก ธปท.เร่งธุรกิจ-แบงก์ เปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ย้ำยอดปล่อยกู้ใกล้แตะ 1 แสนล้าน แต่ยังไม่ใช่จุดที่พอใจ
– คมนาคมชิงเค้กงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท กรมทางหลวงนำโด่ง ของบ 1 หมื่นล้าน รฟท.ลุย 123 โครงการ 2.7 พันล้าน รฟม.ไม่น้อยหน้า เล็งชดเชยรายได้เอกชนรถไฟฟ้า 3 สาย 7 วัน เซ่นมาตรการฝุ่น PM 2.5 “สุริยะ” ขีดเส้น 28 พ.ค. นี้ ด้านรับเหมาขานรับขอพุ่งเป้าชัดเจน
– นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-25 พ.ค.2568 มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมทั้งสิ้น 13,875,964 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายประมาณ 652,692 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน จำนวน 1,890,929 คน มาเลเซีย จำนวน 1,799,423 คน รัสเซีย จำนวน 947,352 คน อินเดีย จำนวน 935,256 คน และเกาหลีใต้ จำนวน 654,261 คน
– สงครามราคาอีวีปะทุรอบใหม่ “บีวายดี” เปิดฉากหั่นราคาสูงสุดถึง 34% หลังเผชิญปัญหาสต็อกล้น ยอดขายไม่ตรงเป้า นักวิเคราะห์ชี้การแข่งขันรุนแรงกดดันซัพพลายเชน ขณะที่ใน “ไทย” เผชิญความท้าทายบริการหลังการขายแม้ผู้บริโภคได้ประโยชน์จากราคา ส.อ.ท. ยันตลาดรถยนต์แข่งดุมานาน ย้ำผู้ผลิตต้องมีสายป่านยาวพอและเร่งปรับตัว วงการวิเคราะห์ถึงยุคจัดระเบียบหันเน้นบริการหลังการขายสร้างความเชื่อมั่น เผยโอกาสแบรนด์รอดหรือไม่รอดดูสถานการณ์บริษัทแม่
หุ้นเด่นวันนี้
– MTC (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 56 บาท โมเมนตัมกำไรไตรมาส 2/68 คาดยังแข็งแรงสุดในกลุ่ม จากทั้งสินเชื่อคาดยังโตได้ ตั้งเป้าทั้งปี 68 โต 10-15% ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังแข็งแรงและจัดการได้ดี ทำให้ Credit cost โดยรวมคาดลดลงจากปี 67 ส่วนความเสี่ยงอยู่ที่ความไม่แน่นอนและชะลอตัวของเศรษฐกิจ เรายังคาดกำไรสุทธิปี 68 ที่ 7.1 พันลบ.+21% y-y ระยะสั้น Bond Yield ทั่วโลกขยับลง รวมถึงไทยแนวโน้มดอกเบี้ยคาดยังลงต่อเนื่องเป็นปัจจัยหนุนทั้งต้นทุนการเงินและ Sentiment
– COM7 (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 24.50 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกหลังอัปเดตแนวโน้มธุรกิจล่าสุดผู้บริหารเปิดเผยว่ายอดขายไตรมาส 2/68 โตต่อเนื่องสูงกว่า 9% YoY ในไตรมาส 1/68 ได้แรงหนุนการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่จากจีนที่จะสนับสนุนให้แนวโน้มของกำไรออกมาดี อีกทั้งบริษัทตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ 140-150 แห่ง และปิดสาขาขาดทุน 40-50 แห่ง คาดจำนวนสาขาจะอยู่ที่ 1,400 แห่งภายในสิ้นปี ขณะที่มูลค่าหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2025 ที่ 13.7เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 1.5เท่า
– TOP (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 30 บาท มี sentiment บวกจากข่าวความคืบหน้าในโครงการ CFP โดยคาดมีรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งผู้รับเหมา EPC รายใหม่ รวมทั้งงบประมาณ และระยะเวลาก่อสร้างใน Q3/68 ส่วนใน H2/68 เตรียมออก Perpetual Bond และทำ Asset Monetization ลดหนี้และรักษา Credit Rating ในระดับ Investment Grade ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/68 คาดกำไรปกติเร่งตัว QoQ, YoY หนุนจาก Market GIM เพิ่มขึ้นตาม product spread แต่ยังมีตัวถ่วงจาก stock loss ก้อนใหญ่จากราคาน้ำมันปรับลง และอาจมีผลกระทบระยะสั้นจากแผนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในเดือน ก.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ค. 68)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย