เงินบาทเปิด 32.82 ต่อดอลล์ จับตาสถานการณ์โควิดในประเทศหลังเริ่มมีสัญญาณดี

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.82 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.73 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังรัฐบาลออกมาตรการดูแลและบรรเทาผลกระทบชุดใหญ่ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศที่มีสัญญาณที่ดีขึ้น

“วันนี้ตลาดคงย่อยข่าวเกี่ยวกับมาตรการภาครัฐว่าส่งผลดีผลเสียอย่างไร รวมทั้งรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19” นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบความเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.70-32.90 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (7 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.07948% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.96579%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 108.59 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.08 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0872 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0882 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.7980 บาท/ดอลลาร์
  • รัฐบาลยกวิกฤตโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ ครม.จัดเต็ม เคาะ พ.ร.บ.โอนงบดึงเข้างบกลาง 8 หมื่น-1 แสนล้าน พร้อมออก พ.ร.ก.3 ฉบับ รวม 1.9 ล้านล้านบาท ทั้งออก พ.ร.ก.กู้เงินฯ 1 ล้านล้านบาท เพื่อดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และ พ.ร.ก.อีก 2 ฉบับ ให้อำนาจ ธปท.ปล่อยซอฟต์โลน และเข้าไปซื้อตราสารหนี้เอกชน วงเงินรวม 9 แสนล้านบาท
  • ฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดเผยว่า ได้ประกาศลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว ของธนาคารกรุงเทพสู่ระดับทริปเปิ้ลบี จากทริปเปิ้ลบีบวก และปรับลดอันดับเครดิตสากลของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ เป็นทริปเปิ้ล บีจากทริปเปิ้ลบีบวก และลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ เป็นดับเบิ้ลบีบวกจากทริปเปิ้ลบี โดยฟิทช์ฯ มองว่าธนาคารกรุงเทพมีความท้าทายจากผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระจายในวงกว้าง อาจได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า และฐานะเงินกองทุนอ่อนแอลงหลังเข้าซื้อกิจการธนาคารเพอร์มาตาในอินโดนีเซีย อาจเจอความเสี่ยงของกำไรที่มากขึ้น
  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยหลังเข้ารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ ว่า ธนาคารอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลผลกระทบต่าง ๆ โดยจะมีการทบทวนแผนธุรกิจและเป้าหมายการเงินปี 63 ใหม่หลังจากเห็นผลประกอบการของไตรมาสแรกแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้และอนาคต โดยเป้าหมายทางการเงินใหม่อยู่ภายใต้การประเมินจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยว่าโควิด-19 จะจบในไตรมาส 2 นี้ คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้จะติดลบ 5%
  • รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยผลกระทบทางตรงเกิดขึ้นกับกลไกสำคัญของธุรกิจการท่องเที่ยว ต่อเนื่องไปถึงธุรกิจรายย่อยทั้งหมด ส่วนผลกระทบทางอ้อมมาจากผู้บริโภคระมัดระวังลดการจับจ่ายใช้สอยและหันไปซื้อสินค้าผ่านออนไลน์แทน
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ในการประชุม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประกอบด้วย สอท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ในวันที่ 8 เมษายน 2563 นี้ กกร.จะร่วมกันพิจารณา มาตรการแก้ไขปัญหา และบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ชุดที่ 3 วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ตามที่ ครม.เห็นชอบ ว่า จะเป็นอย่างไร จะช่วยประคองภาพรวมเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน จะช่วยเยียวยาผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนที่รับผลกระทบเพียงพอหรือไม่ รวมถึงจะหารือ ภาพรวมเศรษฐกิจร่วมกัน และอาจเสนอมาตรการเพิ่มเติมกับภาครัฐ
  • สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 130,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 6.9 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่อัตราการเปิดรับสมัครงานลดลงสู่ระดับ 4.3% จากระดับ 4.4% ในเดือนม.ค.
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนเดินหน้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในการซื้อขายระหว่างวัน ก่อนที่จะอ่อนแรงลงในช่วงท้ายตลาดเนื่องจากถูกฉุดจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 เม.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top