“ลอนดอน” รั้งอันดับ 1 เมืองที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 63, “กรุงเทพฯ” ติดอันดับ 58

กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คว้าอันดับ 1 ในการจัดอันดับเมืองที่ดีที่สุดในโลก โดย Resonance Consultancy บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว และการพัฒนาเศรษฐกิจ ขณะที่กรุงเทพมหานครเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทย ติดอันดับที่ 58 จากทั้งหมด 100 เมืองทั่วโลก

Resonance Consultancy ได้ประกาศรายชื่อเมืองที่ดีที่สุด 100 อันดับแรกของโลกในรายงาน World’s Best Cities Report ประจำปีล่าสุด ซึ่งเป็นรายงานการจัดอันดับเมืองที่ได้รับการยอมรับว่ามีความครอบคลุมมากที่สุด สำหรับเมืองที่ติดอันดับดีที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่

1) ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
2) นิวยอร์กซิตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา
3) ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
4) โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
5) มอสโก ประเทศรัสเซีย
6) ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
7) สิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์
8) บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
9) ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
10) โรม ประเทศอิตาลี

การจัดอันดับเมืองที่ดีที่สุดในโลกของ Resonance วัดและเปรียบเทียบคุณภาพของสถานที่ ชื่อเสียง และอัตลักษณ์ทางการแข่งขันของเมืองใหญ่ทั่วโลกที่มีประชากรตั้งแต่ 1 ล้านคนขึ้นไป รายงานนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นการจัดอันดับเมืองที่ละเอียดที่สุดในโลกโดยใช้ระเบียบวิธีดั้งเดิมอย่างการวิเคราะห์ตัวเลขสถิติที่สำคัญ รวมถึงคำวิจารณ์จากผู้ใช้ และกิจกรรมออนไลน์ในช่องทางต่าง ๆ เช่น Google, Facebook และ Instagram

“การจัดอันดับเมืองที่ดีที่สุดในโลกประกอบด้วยปัจจัยเชิงประสบการณ์ที่ประชาชนพิจารณาว่าสำคัญที่สุดในการเลือกเมืองที่จะอยู่อาศัยหรือไปเที่ยวชม รวมทั้งปัจจัยเชิงประจักษ์ที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจทางธุรกิจพิจารณาว่าสำคัญต่อการทำธุรกิจหรือลงทุน” คริส แฟร์ ประธานและซีอีโอของ Resonance Consultancy กล่าว

ทั้งนี้ การจัดอันดับเมืองที่ดีที่สุดของ Resonance ไม่เพียงแต่พิจารณาเมืองต่าง ๆ ในแง่ของการเป็นสถานที่อยู่อาศัย ทำงาน หรือท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ตั้งแต่จำนวนร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ ทิวทัศน์และสถานที่สำคัญของแต่ละเมือง ไปจนถึงจำนวนบริษัทที่ติดทำเนียบ Global 500 จำนวนเที่ยวบินตรง และจำนวนครั้งที่มีการเอ่ยถึงเมืองนั้น ๆ บน Instagram ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกต่อการดึงดูดการจ้างงาน การลงทุน และการเดินทางมาเยือนของนักท่องเที่ยว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ม.ค. 63)

Back to Top