น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $2.72 รับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ-สหรัฐเปิดศก.เร็วกว่าคาด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ รวมทั้งความหวังที่ว่า สหรัฐจะเปิดเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังมีความคืบหน้าในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 2.72 ดอลลาร์ หรือ 22% ปิดที่ 15.06 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.08 ดอลลาร์ หรือ 10.2% ปิดที่ 22.54 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 เม.ย. ซึ่งแม้ว่าเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 14 สัปดาห์ แต่ก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้น 9.8 ล้านบาร์เรล

รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 5.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่าสหรัฐจะเปิดเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังมีความคืบหน้าในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19 จากบริษัท Gilead Sciences

ทั้งนี้ Gilead Sciences ระบุว่า ผลการศึกษาการใช้ยา remdesivir ซึ่งทางบริษัทดำเนินการร่วมกับสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติ มีผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมายในเบื้องต้น โดยผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวนอย่างน้อย 50% ที่ได้รับยา remdesivir เป็นเวลา 5 วัน มีอาการดีขึ้น และผู้ป่วยจำนวนมากกว่า 50% ที่ได้รับยา remdesivir สามารถออกจากโรงพยาบาลภายในเวลา 2 สัปดาห์

ทางด้านบริษัทมูดี้ส์คาดว่า ราคาน้ำมัน WTI จะมีราคาเฉลี่ย 30 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะมีราคาเฉลี่ย 35 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และ 45 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top