ตลท.แจงกรณี บจ.เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุในบทความเรื่อง “เมื่อ บจ. เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ” ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของหลายอุตสาหกรรม ซึ่งอาจทำให้มีบริษัทจดทะเบียนบางบริษัทจำเป็นต้องตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ

ทั้งนี้ เมื่อบริษัทเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ก็ยังคงมีหน้าที่และแนวทางการปฏิบัติเหมือนบริษัทจดทะเบียนอื่น ๆ คือต้องเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ และที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ อาทิ การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อศาลฯพิจารณารับคำร้อง สาระสำคัญของแผนฟื้นฟูกิจการ และเมื่อศาลอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการ เป็นต้น

ขณะที่การขึ้นเครื่องหมายบนหลักทรัพย์ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นอีกหนึ่งมาตรการในการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนและคุ้มครองผู้ลงทุน โดยการขึ้นเครื่องหมายแต่ละประเภทนั้นมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น เครื่องหมาย “C” (Caution) ใช้เพื่อเตือนผู้ลงทุนให้เพิ่มความระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ โดยเมื่อศาลฯรับพิจารณาคำร้องฟื้นฟูกิจการ หรืองบการเงินมีส่วนของทุนต่ำกว่า 50% ของทุนเรียกชำระแล้ว กรณีใดกรณีหนึ่งหรือทั้งสองกรณี ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย “C”

โดยผู้ลงทุนยังคงซื้อขายได้ด้วยบัญชี cash balance (ผู้ลงทุนวางเงินสดล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนซื้อขาย) และบริษัทเองก็มีหน้าที่รายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อผู้ลงทุนทุก ๆ ไตรมาส ส่วนการส่งงบการเงินจะต้องส่งตามกำหนดเวลาปกติเหมือนบริษัทจดทะเบียนทั่วไป

ส่วนการขึ้นเครื่องหมาย “SP” จะเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุต่าง ๆ อาทิ บริษัทไม่ส่งงบการเงินตามกำหนดเวลา ซึ่งจะขึ้นเครื่องหมาย “NC” ควบคู่ไปด้วยหากบริษัทเข้าสู่เหตุเพิกถอนจากการที่ส่วนของทุนมีค่าติดลบ ซึ่งจะพิจารณาจากงบการเงินงวดปีเท่านั้น ไม่ได้พิจารณาจากงบการเงินงวดไตรมาส ซึ่งเครื่องหมาย “SP” ดังกล่าวจะมีผลทำให้หุ้นของบริษัทถูกพักการซื้อขาย และจะกลับมาซื้อขายใหม่ก็ต่อเมื่อบริษัทแก้เหตุเพิกถอนตามเกณฑ์และระยะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีกลไกและแนวทางเพื่อดูแลผู้ถือหุ้น ครอบคลุมทั้งกรณีปกติและกรณีบริษัทจดทะเบียนที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะเดียวกัน บริษัทจดทะเบียนเองก็มีหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาของบริษัท ควบคู่ไปกับการเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนรับทราบอย่างเท่าเทียม

ที่สำคัญผู้ลงทุนควรติดตามข้อมูลข่าวสารของบริษัทที่ลงทุนอย่างสม่ำเสมอจากเว็บไซต์ www.set.or.th และแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ของท่านในการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ได้มั่นใจและทันเหตุการณ์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top