AEC ปรับสัดส่วนขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมเป็น 0.4:1

บล.เออีซี (AEC) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวันนี้ อนุมัติการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (RO) เป็น 0.4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ จากเดิมที่ 0.5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ทำให้แผนการเพิ่นทุนใหม่เป็นดังนี้

บริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5.82 พันล้านบาท จากเดิมที่ 1.22 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 4.59 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็น จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 3.06 พันล้านหุ้น เสนอขาย RO สัดส่วน 0.4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดจองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 24-28 ส.ค.63

และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 1.53 พันล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) รุ่นที่ 6 (AEC-W6) ที่จะออกจำนวนไม่เกิน 1.53 พันล้านหน่วย จัดสรรให้ฟรีกับผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในอัตราส่วน 2 หุ้นใหม่ต่อ 1 วอร์แรนต์ โดยวอร์แรนต์ มีอายุไม่เกิน 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 0.20 บาท/หุ้น

นายชองอี ไต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AEC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับเงินจากการระดมทุน จากนิติบุคคลอื่นซึ่งไม่มีความเกี่ยวโยงกันเป็นจำนวน 150 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) และอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ให้บริษัทฯสามารถดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิได้ตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และจะทำให้บริษัทฯกลับมามีสถานะที่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบันได้ยื่นหนังสือไปยังสำนักงาน ก.ล.ต.เพื่อให้พิจารณาให้บริษัทฯ กลับมาประกอบธุรกิจได้ตามปกติ

ทั้งนี้ บริษัทมีความตั้งใจที่จะแก้ไขเรื่องการดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยใช้แผนระยะเร่งด่วนและสามารถแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงแล้ว ส่วนการดำเนินธุรกิจต่อไปมีแผนระยะกลางที่กำหนดไว้แล้ว คือการขอมติผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติในเรื่องการเพิ่มทุนจำนวน 4,590,933,780 หุ้น ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ จำนวนประมาณ 300 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีแผนจะออกหุ้นกู้วงเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอต่อการดำเนินงานและขยายธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น สามารถรองรับการขยายตัว ของธุรกิจหลัก และ/หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งยังสามารถรองรับการลงทุนในธุรกิจที่สามารถต่อยอดจากธุรกิจหลักของบริษัทได้ อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการช่วยเพิ่มรายได้และผลกำไรที่ดีต่อบริษัทในอนาคต

“เป้าหมายในอนาคตอย่างหนึ่งที่ บล.เออีซี ต้องการคือ การยกระดับขึ้นเป็นบริษัทหลักทรัพย์ขนาดกลาง แต่เราจะไม่เร่งการเติบโตด้วยวิธีผิดๆ อย่างการซื้อตัวมาร์เก็ตติ้งมาสร้างวอลุ่ม วิธีนี้ดังกล่าวไม่มั่นคง วิธีที่ดีกว่าคือ สร้างคนของเราขึ้นมาเอง และสร้างภาพบริษัทฯ ของเราให้เข้าไปอยู่ในใจลูกค้า แม้จะต้องใช้เวลามากกว่าแต่ก็มั่นคงกว่า และไม่ได้แค่มุ่งเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ แต่จะเติบโตจากรายได้ประเภทอื่นๆ ด้วย” นายชองอี ไต้ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top