BCP ส่ง E20 สูตรใหม่ชิงตลาดหลังยอดใช้น้ำมันฟื้นเร็วกว่าคาดเมื่อรัฐคลายล็อก

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์แก๊สโซฮอล์ E20 S EVO ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้สะอาดขึ้น 100% และมีอัตราเร่งเครื่องสูงขึ้นอยู่ที่ 56% รับรู้ได้ตั้งแต่เติมถังแรก ในราคาที่คุ้มค่า หรือไม่ได้ปรับราคาสูงขึ้นแต่อย่างใด

โดยการปรับสูตรน้ำมันใหม่ ถือเป็นการสร้างความสุขตอบแทนให้กับผู้บริโภคหลังโควิด-19 คลี่คลายลง และต้อนรับการกลับมาเดินทางบนท้องถนนอีกครั้ง ซึ่งได้เริ่มจำหน่ายผ่านสถานีบริการน้ำมัน 1,200 แห่งทั่วประเทศแล้ว และเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายน้ำมันให้กับบางจากฯด้วย

อย่างไรก็ตาม การปรับสูตรแก๊สโซฮอล์ E20 S EVO ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐที่เตรียมประกาศให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันเกรดพื้นฐานกลุ่มเบนซิน ในอนาคต ขณะที่บางจากฯวางเป้าในอนาคตจะเหลือหัวจ่ายน้ำมันหลัก กลุ่มเบนซิน คือ แก๊สโซฮอล์ E20 S EVO และแก๊สโซฮอล์ 95 ส่วนกลุ่มดีเซล จะเหลือดีเซล B10 ,ดีเซล B7 และดีเซลพรีเมียม ซึ่งจะเป็นการลดภาระการลงทุนหัวจ่ายน้ำมัน เพราะปัจจุบัน ประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่สถานีบริการน้ำมันมีหัวจ่ายน้ำมันมากถึง 10 ผลิตภัณฑ์

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ภาพรวมความต้องการใช้น้ำมันในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ลดลงไปราว 8-9% แต่การใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ E20 ลดลงน้อยว่าตลาด โดยการใช้ E20 ลดลงไปราว 4-5% เท่านั้น ขณะที่บางจากฯมีการขายแก๊สโซฮอล์ E20 ผ่านสถานีบริการน้ำมันในสัดส่วน 25% ของยอดขายน้ำมันกลุ่มเบนซิน สูงกว่าตลาดทั่วไปที่มีการจำหน่ายในสัดส่วน 22-23%

แต่ขณะนี้ความต้องการใช้น้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันนับว่าฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด หลังจากการบริโภคลดลงไปในช่วงที่รัฐบาลออกมาตรการเข้มเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ยอดการใช้ลดลงมากราว 20% ในช่วงเดือน เม.ย. ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นตัวหลังจากที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยในเดือน พ.ค.และ มิ.ย. ยอดการใช้ลดลงไปเพียง 7-8% และ 5-6% ตามลำดับ และคาดว่ายอดขายน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัวมากขึ้นจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล และราคาน้ำมันที่ยังอยู่ระดับต่ำ

“การบริโภคน้ำมันในสถานีบริการน้ำมันกลับมาเร็วกว่าที่เราคาด เดือนมีนาหายไปประมาณ 10% เดือนเมษาหายไปประมาณ 20% เดือนพฤษภากลับมาแล้ว หายไปประมาณ 7-8% เดือนนี้ผ่านไปครึ่งเดือนหายไปประมาณ 5-6% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า…เรามองว่ากรกฎา เริ่มมีเที่ยวทั่วไทย เที่ยวปันสุข และคนอาจจะใช้รถส่วนตัวมากขึ้น เดินทางใช้รถสาธารณะน้อยลงก็จะเป็นผลดีต่อการขายน้ำมัน ราคาน้ำมันที่ค่อนข้างต่ำก็จะเป็นปัจจัยบวกอีกอย่างหนึ่ง”นายชัยวัฒน์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top