เครือข่าย นศ.เผารูป”ลุงตู่-ลุงป้อม”หน้าทำเนียบฯ เรียกร้องลาออก-แก้รธน.-ยุบสภา

กลุ่มนวชีวินและภาคีนักศึกษาศาลายารวมตัวจัดกิจกรรมแสดงออกทางการเมืองด้วยการเผารูปภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี บริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) ฝั่งตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกและยุบสภาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากบริหารราชการผิดพลาด

แกนนำกลุ่มอ่านแถลงการณ์ 5 ข้อ ได้แก่

  1. ภายใต้การบริหารนของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ นับตั้งแต่ปี 57 เศรษฐกิจไทยเติบโตระดับต่ำอย่างต่อเนื่องและอยู่ท้ายสุดในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน จนกระทั่งการแพระบาดของโควิดทำให้เศรษฐกิจไทยติบลบ 8% เนื่องจากการส่งออก และการท่องเที่ยวที่ตกต่ำ ในขณะที่สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำกันเป็นอย่างมาก โดยเอื้อประโยชน์ต่อนายทุน ทำให้คนรวยยิ่งรวยยิ่งขึ้น คนจนยากจนมากยิ่งขึ้น
  1. รัฐบาลไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ในเรื่องของการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 425 บาท และเพิ่มเงินเดือนคนจบปริญญตรีเดือนละ 20,000 บาท การประกันราคาพืชผลการเกษตร ปล่อยให้ชาวนา ชาวไร่ล้มละลาย สูญเสียที่ดินทำกินการไม่ทำตามสัญญาประชาคม เป็นการแสดงให้เห็นถึงความโกหกหลอกลวงของรัฐบาล จึงหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ
  2. การบริหารงานผิดพลาดและการกอบโกยโกงกินจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทำให้หน้ากากอนามัยขาดแคลน แต่ปรากฏว่า มีการส่งออกไปต่งประเทศ สร้างความร่ำรวยให้กับธุรกิจผู้จำหน่ายและผลิตหน้ากากอนามัยหลายพันล้านบาท รวมทั้งความอ่อนแอในการปล่อยให้มีกองทัพบกมีอภิสิทธิ์ในการจัดการแข่งขันชกมวย จนทำให้ไวรัสโควิดแพร่ระบาดไปในหลายจังหวัด แม้แต่การแพร่ระบาดรอบสอง เกิดขึ้นจากการให้อภิสิทธิ์กับกลุ่มทหารและการทูตจนนำเชื้อเข้ามาภายในประเทศ
  3. รัฐบาลทำให้ผู้จบการศึกษาปีละ 5 แสนคนตกงาน โดยไม่มีการเยียวยาหรือมีมาตรการประกันรายได้คนว่างงาน ทำให้คนว่างงานมีจำนวนถึง 8 ล้านคน กลายเป็นคนยากจนข้นแค้น การเยี่ยวยาจากรัฐเดือนละ 5,000 บาท ไม่ถ้วนหน้าและเป็นการเลือกปฏิบัติ โดยที่รัฐบาลได้ก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 57 % ของรายได้ประชสชาติอันจะเป็นภาระชดใช้หนี้ให้กับคนรุ่นต่อไปอีก
  4. รัฐบาลประยุทธ์ เป็นผด็จการใช้กฏหมายปราบปรมคุกคามประชาชนที่มีความเห็นแตกต่งจากรัฐบาล ด้วยการปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรงโดยมีการอุ้มฆ่าสูญหายไปถึง 9 ชีวิตด้วยกัน และการทำร้ยนักกิจกรรม 3 คน โดยไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ จึงเป็นอาชญากรรมแห่งรัฐ ใช้กฎหมายคุกคามประชชน ทำลายสิทธิสภาพของประชาชน เช่น การขยายการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปยาวนาน และใช้เป็นเครื่องมือคุกคามประชาชน

แกนนำ ระบุว่า หากปล่อยให้รัฐบาล”ประยุทธ์”บริหารประเทศต่อไปอีกจะทำให้เศรษฐกิจพังทลาย สร้างหายนะให้กับประเทศชาติ ประชาชนจะทุกข์ยากเดือดร้อน ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขวิกฤติการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ควรลาออกทันที แก้ไขรัฐธรมนูญให้มีความเป็นประชาธิปไตยแล้วยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตยต่อไป

ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 150 นายร่วมกับตำรวจนครบาล 2 กองร้อย ไม่รวมตำรวจนอกเครื่องแบบ ตรึงกำลังบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลและหน้าสำนักงาน กพ.เพื่อดูแลสถานการณ์ โดยมีพล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ลงมาดูแลสถานการณ์ด้วยตัวเอง รวมทั้งพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจถึงขอบเขตของการชุมนุม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และหากทำผิดจะถูกดำเนินคดี พร้อมทั้งเตรียมถังดับเพลิงเอาไว้ในกรณีที่มีการจุดไฟเผาสิ่งของด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top