ไทยพบนักท่องเที่ยวจากอู่ฮั่นติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่ม 1 ราย

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวภายหลังเยี่ยมผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า ได้รับแจ้งจากทีมสอบสวนโรคว่าพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคดังกล่าว จึงส่งผู้ป่วยมารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ผู้ป่วยเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น อายุ 33 ปี มีไข้ไอเล็กน้อย ไม่มีน้ำมูก ปวดกล้ามเนื้อ

ขณะนี้อยู่ในห้องแยกความดันลบ เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ส่วนลูกสาวอายุ 7 ขวบยังไม่มีอาการป่วย

เช้าวันนี้ผู้ป่วยมีไข้ต่ำๆ อาการทั่วไปดี มีอ่อนเพลียเล็กน้อย ไอเล็กน้อย มีเสมหะให้การรักษาตามอาการ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 5 ของประเทศ และผู้ป่วยทุกรายเดินทางมาจากเมืองที่มีการระบาดของโรค ไม่ได้มีการติดเชื้อในประเทศ

ทั้งนี้ โรงพยาบาลราชวิถีได้เตรียมพร้อมรองรับผู้ป่วยไวรัสปอดอักเสบมีห้องแยกความดันลบไว้ 6 ห้อง เตรียมสำรอง เวชภัณฑ์ อาทิ เสื้อกาวน์ หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ยาต้านไวรัส ยาปฏิชีวนะ น้ำเกลือ เพียงพอสำหรับดูแลผู้ป่วย ที่สำคัญได้เตรียมบุคลากรที่ผ่านการซ้อมแผน รวมทั้งมีประสบการณ์การทำงานกับผู้ป่วยไวรัสปอดอักเสบเพื่อดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้

นอกจากนี้ โรงพยาบาลราชวิถี ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์สั่งการเพื่อส่งต่อผู้ป่วย หลังจากทีม SAT กรมควบคุมโรค ประเมินว่าผู้ป่วยสงสัยไวรัสปอดอักเสบ จำเป็นต้องได้รับการส่งต่อ เพื่อให้การส่งต่อเป็นไปอย่างปลอดภัยทั้งผู้นำส่งและเส้นทางการนำส่ง

“ขอให้ประชาชนมั่นใจ การพบผู้ป่วยเพิ่ม แสดงถึงระบบการเฝ้าระวังโรคที่มีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยรายนี้ขอเข้ารับการรักษาเมื่อป่วย ตามใบแจ้งเตือนที่แจกผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงทุกคน ขณะนี้เราได้ยกระดับการเฝ้าระวังตามสถานการณ์ของโรค โดยโรงพยาบาลศูนย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง รวมทั้งในสังกัดกรมการแพทย์ สังกัดกรมควบคุมโรคได้มีการซักซ้อม เตรียมความพร้อม เพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วยและควบคุมป้องกันการแพร่เชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายสาธิตกล่าว

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้องค์การอนามัยโลกจะยังไม่ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขที่มีผลกระทบระหว่างประเทศ (PHEIC) แต่ยังคงมาตรการเฝ้าระวังเข้มข้นสูงสุดเช่นเดิม โดยมีการประสานไปยังสายการบิน

รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านต่างๆ หากพบเห็นผู้มีอาการน่าสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที และกำชับให้ทุกโรงพยาบาลเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วยที่มาจากเมืองที่มีการระบาดสถานการณ์ผู้ป่วยในประเทศไทย

สำหรับ ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 73 ปี รักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐม ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นลบติดต่อกัน 2 วัน วันนี้แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ และขอให้คนไทยอย่าตื่นตระหนก เพราะยังไม่พบการระบาดจากคนสู่คนในประเทศไทย

นอกจากนี้ ในวันที่ 27 มกราคม 63 นี้ทางกรมควบคุมโรค จะร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการบริษัททัวร์ด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ม.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top